ศก.ทั่วโลก ป่วน หลังอังกฤษออกจากอียู ดัชนีหุ้นและเงินปอนด์อังกฤษร่วงอย่างต่อเนื่อง*

นายเจเรมี คุ๊ก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทเวิร์ด เฟิร์สของอังกฤษ กล่าวว่า ดัชนีฟุตซี100 ตลาดหุ้นลอนดอนเปิดตลาดวันนี้ร่วงร้อยละ 0.8 ลงมาที่ 6,092.19 จุด ก่อนหน้านี้ ดัชนีร่วงกว่าร้อยละ 8 ในช่วงหนึ่งของการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ก่อน ก่อนจะดีดตัวขึ้นไปปิดเหลือร่วงร้อยละ 3.2 ส่วนเงินปอนด์ในช่วงแรกของการซื้อขายในวันนี้อยู่ที่ 1.3463 ดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงกว่าร้อยละ 2 จากระดับปิดเมื่อวันศุกร์ก่อน เมื่อเทียบกับเงินยูโร เงินปอนด์ซื้อขายที่ 1.2170 ยูโร ลดร้อยละ 1.2 ก่อนหน้านั้นเงินปอนด์ดิ่งหนักสุดในรอบหนึ่งวันเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ในช่วงหนึ่งเงินปอนด์ดิ่งไปที่ 1.3236 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ก่อน

นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่า ค่าเงินปอนด์จะดิ่งลงอีกร้อยละ 10 เทียบกับเงินดอลลาร์ในช่วง 2-3 เดือนนี้หลังมีข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของอังกฤษ ขณะเดียวกันหลายฝ่ายคาดว่ารัฐบาลอังกฤษจะใช้นโยบายการเงินเพื่อช่วยพยุงค่าเงินปอนด์ให้ทรงตัวในเร็วๆนี้ เขากล่าวว่า แรงกดดันตัวต่อไปของอังกฤษคือ ปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและการขาดดุลการคลัง สำหรับการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดจะเป็นตัวชี้วัดเรื่องดุลการค้า รายได้จากการลงทุนและการโอนเงิน โดยการขาดดุลในส่วนนี้บ่งบอกว่า อังกฤษจะต้องกู้ยืมเงินมาใช้จ่ายมากขึ้น ส่วนการขาดดุลการคลังบ่งชี้ถึงการที่รัฐบาลมีรายจ่ายสูงกว่ารายรับ ทั้งๆที่รายรับส่วนหนึ่งได้มาจากการกู้ยืมของภาครัฐ

ในเอเชีย นายทาโร อาโซะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น กล่าวว่านายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ให้นโยบายว่ารัฐบาลจะดำเนินมาตรการต่างๆเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดเงิน ถ้าจำเป็น ระบุว่าขณะนี้ยังคงมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนในตลาดเงินทั่วโลก  การแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินเยนเป็นประเด็นที่รัฐบาลญี่ปุ่นหวั่นวิตกมาก เนื่องจากจะทำให้ภาคการส่งออกของญี่ปุ่นด้อยความสามารถในการแข่งขัน ส่วนตลาดหุ้นนิเคอิของญี่ปุ่น หลังร่วงเกือบร้อยละ 8 เมื่อวันศุกร์ก่อน ปรับขึ้นร้อยละ 1.7 ในวันนี้ ด้านธนาคารกลางของจีนได้ปรับลดค่าเงินทางการของเงินหยวนลงอีกร้อยละ 0.9 นับเป็นการปรับค่าเงินมากที่สุดนับแต่เดือนสิงหาคมปีก่อน/15.54 น.