การเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารการคลังและงบประมาณของกรุงเทพมหานคร(กทม.) นายพีรพงษ์ สายเชื้อ ปลัดกทม. กล่าวว่า กทม.เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษที่มีหน้าที่ดูแลประชาชน พัฒนากทม.ให้เป็นเมืองน่าอยู่และมีความปลอดภัย ขอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐปรับการทำงานให้เร็วขึ้น ไม่ต้องรอคำสั่งจากหน่วยงานต้นสังกัด และขอให้ใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ และคุ้มค่า
ด้านนายบุญทิพย์ ชูโชนาค ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานการจัดซื้อจัดจ้าง กรมบัญชีกลาง ให้ความรู้เรื่องพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ในการสัมมนาเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพด้านการบริหารการคลังและงบประมาณของกทม.ว่า เนื่องจากประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมาตรฐานกลาง เหมือนอย่างประเทศอื่นๆ แต่การบริหารราชแผ่นดินตามนโยบายของรัฐบาลที่เน้นเรื่องธรรมาภิบาลและไม่มีปัญหาเรื่องการทุจริต จึงกำหนดบทลงโทษทางอาญา กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมถึงผู้สั่งการที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ให้ได้รับโทษตามที่กฎหมายกำหนด ทำให้มีพระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ เพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ เป็นไปในทิศทางเดียวกันเกิดประสิทธิภาพสูงสุด มีผลบังคับใช้กับทุกหน่วยงานของภาครัฐ ยกเว้น หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐในต่างประเทศ
ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานการจัดซื้อจัดจ้าง กรมบัญชีกลาง เน้นหลักการในการจัดซื้อจัดจ้างว่า ต้องมีความคุ้มค่าในการจัดหาพัสดุที่มีคุณภาพ และตอบสนองความต้องการของหน่วยงานรัฐ รวมทั้งมีราคาที่เหมาะสม มีความโปร่งใส เปิดโอกาสให้แข่งขันอย่างเป็นธรรมและเปิดเผยข้อมูลในทุกขั้นตอน ตรวจสอบและประเมินผลได้ ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือผู้มีอำนาจใด ปฏิบัติหน้าที่ในการจัดซื้อจัดจ้าง โดยไม่สุจริต จะต้องถูกจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปีและปรับตั้งแต่ 40,000 - 400,000 บาท
ผู้สื่อข่าว: เกตุกนก ครองคุ้ม