ก่อนการนัดไต่สวนพยานโจทก์คดีจำนำข้าวครั้งที่ 10 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามที่ศาลนัดไต่สวนพยานโจทก์ ครั้งที่ 10 ในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว โดยในวันนี้ ศาลได้มีการนัดไต่สวนพยานโจทก์ อีก 1 ปาก คือ นายจิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการสอบข้อเท็จจริงความผิดทางละเมิดโครงการรับจำนำข้าว
โดยนางสาวยิ่งลักษณ์กล่าวก่อนถึงวันลงประชามติ ขอให้กติกาต่างๆ มีความชัดเจนมากขึ้น ไม่เช่นนั้นทุกคนไม่สามารถแสดงออกได้เต็มที่ และที่สำคัญขอให้วางตัวเป็นกลาง ส่วนเรื่องสิทธิมนุษยชนในขณะนี้นั้น จากที่เห็นตามข่าวทุกคนได้มีการเรียกร้อง ซึ่งเราเองก็อยากเห็นการเปิดพื้นที่ให้ผู้เห็นต่างเพื่อสะท้อนการให้สิทธิเสรีภาพ และอยากให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความสงบด้วยถ้อยทีถ้อยอาศัย ซึ่งจะทำให้ทุกอย่างมีความราบรื่น
ส่วนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิกปปส. เตรียมออกแสดงความเห็นรับร่างรัฐธรรมนูญผ่านโซเซียลมีเดียว่า เรื่องนี้ผู้รักษากติกาต้องวางตัวเป็นกลาง ทำให้กติกาต่างๆ เกิดความเท่าเทียม ไม่ใช่นั้นหากอนุญาตให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ห้ามอีกฝ่ายคนก็จะครหาผู้รักษากติกา ส่วนจะมีความจะแตกต่างกันหรือไม่เพราะนายสุเทพ ไม่ไช่นักการเมือง จึงไม่ต้องกลัวเรื่องการยุบพรรคนั้น มองว่าวันนี้ทุกคนแสดงความเห็นโดยใช้สิทธิส่วนบุคคล เนื่องจากพรรคการเมืองไม่สามารถทำกิจกรรมใดๆ ได้ และเป็นสิทธิของแต่ละบุคคลที่สามารถแสดงความเห็นได้
ส่วนกรณีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยให้เงินสนับสนุนชาวนาไร่ละ 1 พันบาท เป็นเงินกว่า 4.5 หมื่นล้านบาทอยากให้ดูที่ผลเพราะวิธีการดำเนินงานของแต่ละรัฐบาลอาจจะต่างกัน แต่ทุกรัฐบาลล้วนต้องการให้ความช่วยเหลือเกษตรกร และต้องดูว่าสุดท้ายชาวนาได้รับผลเต็มที่และทั่วถึงหรือไม่ ส่วนการลงพื้นที่พบปะประชาชนนั้นตนก็ห่วงในเรื่องเศรษฐกิจเพราะยังเติบโตไม่เต็มที่โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย จะประสบปัญหาจึงอยากให้รัฐบาลหามาตรการต่างๆช่วยเหลือทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มต่างจังหวัดที่อาจไม่เข้าถึงเรื่องการสะท้อนปัญหาปากท้องได้
ส่วนบรรยากาศด้านหน้าศาลมีประชาชนมารอมอบดอกกุหลาบและร่วมร้องเพลงอวยพรวันเกิดครบ49 ปีย้อนหลังเพื่อให้กำลังใจนางสาวยิ่งลักษณ์ แต่มีมวลชนมาน้อยกว่าปกติเนื่องมีฝนตกลงมาในช่วงเช้า โดยมีตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ดูแลความเรียบร้อย จำนวน 50 นาย