*ทางหลวงแจ่งจุดเฝ้าระวังน้ำท่วม20จุด/ยังไม่ปลด ผอ.พ.ศ./ตั้ว กีรติพบแม่แล้ว*

24 มิถุนายน 2559, 08:27น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.


+++การประชุมรับมือน้ำท่วม กทม-ปริมณฑล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวตอนหนึ่งว่า กทม. ต้องเตรียมการทางกายภาพเพื่อรับสถานการณ์ต่อจากนี้ เช่น ท่อระบายน้ำ ทางน้ำ การพร่องน้ำ และระบบปั๊มน้ำ ต้องมีความพร้อม ส่วนการเตรียมการหน่วยทหาร ตำรวจ ปภ. และอาชีวะฯ ต้องพร้อมรับแจ้งสถานการณ์จาก กทม. อยู่ตลอด เพื่อให้พร้อมดำเนินการสนับสนุน          "กทม.ต้องประเมินฟันธงได้ว่าจะระบายน้ำ ช่วงเช้าได้ทันก่อนเวลาตี 5 หรือไม่ ถ้ารู้ว่า ประเมินไม่ทันแน่ ให้ประสานไปที่ บก.02 เพื่อเข้าไปช่วยเหลือด้านการจราจร เมื่อบก.02 ทำการประมวลผลแล้วค่อยเปิดการจราจร หากยังไม่สามารถดำเนินการได้ก็จะนำเรือรับส่งเข้าไปช่วยอีกทาง อย่าปล่อยให้ประชาชนมาอยู่บนถนนก่อน


++++ด้านม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวถึงมาตรการต่อไปหากเกิดฝนตกหนักอีกครั้งว่า กทม.จะพยายามพร่องน้ำในคลองต่างๆ ให้สูงสุดมากเท่าที่จะทำได้ ซึ่งคาดว่าหากอุโมงค์แห่งใหม่ใต้คลองบางซื่อแล้วเสร็จ  จะสามารถช่วยดึงน้ำจากจุดนี้ได้ดีมาก ยิ่งขึ้น


++++ขณะที่ นายสราวุธ ทรงศิวิไล รองอธิบดีกรมทางหลวงฝ่ายบำรุงทาง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักงานทางหลวงที่ 13 (กรุงเทพฯ) และแขวงทางหลวงในสังกัดที่รับผิดชอบพื้นที่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล กำหนดจุดเฝ้าระวัง จุดที่สุ่มเสี่ยง อ่อนไหว น้ำท่วมทาง พร้อมทั้งเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องสูบน้ำ เครื่องมือเครื่องจักรอื่นและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกปลอดภัยให้พร้อมตลอดเวลา เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ จนกว่าเหตุการณ์จะคลี่คลาย พร้อมทั้งติดตาม รายงาน สถานการณ์เป็นระยะ ๆโดยพบพื้นที่ที่เป็นจุดเฝ้าระวัง จุดที่อ่อนไหว คาดว่าจะเกิดน้ำท่วมขัง 20 จุด เช่น ทางหลวงหมายเลข 31 ถนนวิภาวดี บริเวณวิภาวดี ซอย 3 พื้นที่กรุงเทพมหานคร  ทางหลวงหมายเลข 304 ถนนแจ้งวัฒนะ บริเวณช่วงคลองประปา - ศูนย์ราชการ ทางหลวงหมายเลข 351 ถนนเกษตร - นวมินทร์ บริเวณคลองบางบัว กรมทางหลวงได้จัดเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อคอยอำนวยความสะดวกและช่วยเหลือประชาชนกรณีเกิดฝนตกหนัก รวมถึงเตรียมเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่เร็วไว้ไปสูบน้ำในสายทางที่ฝนตกหนักและระบายน้ำไม่ทัน


+++ การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 วาระแรก วงเงิน 2.73 ล้านล้านบาทที่ประชุม สนช.ลงมติเห็นชอบรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 ด้วยคะแนน 189 งดออกเสียง 3 พร้อมทั้งกำหนดเวลาในการแปรญัตติ 15 วัน ระยะเวลาการดำเนินการ 90 วัน ก่อนประธาน สนช. จะสั่งปิดการประชุมในเวลา 18.00 น. อย่างไรก็ตามการประชุมใช้เวลาทั้งสิ้น 8 ชั่วโมง  ก่อนหน้านี้  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. นำทีมชี้แจงงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2559 มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 3-3.5 ปรับตัวดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่าย และการลงทุนภาครัฐที่ขยายตัวในระดับสูง ยอมรับว่า การจัดทำงบประมาณนั้น รัฐบาลมีข้อจำกัดมากขึ้น เพราะมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นเร็วกว่ารายได้ แต่การขึ้นภาษีทำได้ยาก


+++กระแสข่าวปลดนายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกจากตำแหน่งเนื่องจากไม่สนองนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะกรณีพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ย้ายหรือปลดนายพนมตามที่มีกระแสข่าว ผู้อำนวยการสำนักพุทธฯ ยังทำหน้าที่สนองงานของรัฐบาลและช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่ รวมถึงให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย ขณะที่งานด้านอื่น ๆ เช่นการปฏิรูปก็เดินหน้าเช่นเดียวกับการแก้ไขปัญหาวัดพระธรรมกายก็ให้ความร่วมมือ ทุกฝ่ายค่อยๆ แก้ปัญหากันไป ขอย้ำว่าการดำเนินการกับวัดพระธรรมกายของสำนักงานพระพุทธศานาแห่งชาติทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายและตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่


+++หลังมีรายงานข่าวว่า วัดพระธรรมกาย มีการซุกซ่อนสิ่งผิดกฎหมายและอุปกรณ์เพื่อใช้ก่อเหตุความรุนแรงไว้ใต้อุโบสถของวัดพระธรรมกาย นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์ของวัด และเจ้าหน้าที่วัด ได้พาสื่อมวลชนขึ้นรถรางที่วัดจัดเตรียมไว้5คันเพื่อตรวจเยี่ยมบริเวณพระอุโบสถ โดยเคลื่อนผ่านประตู5 ที่ปกติแล้วจะไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้ามาได้ เข้ามาชมภายในวัด โดยเมื่อเดินทางถึงอุโบสถมีพระมหานพพร ปุนยะชะโย ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย และนายองอาจ  เป็นผู้นำสื่อมวลชนตรวจสอบภายในโบสถ์ ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ชั้นในสุด และเป็นจุดสิ้นสุดของวัด ที่อยู่ติดกับคลอง3  ก่อนหน้านี้พระมหานพพรได้นำสื่อมวลชนเข้ามาภายในอุโบสถเพื่อ กราบพระประทาน  และอธิบายถึงประวัติการสร้างอุโบสถแห่งนี้ นายองอาจ ได้ยืนยันว่า  ใต้ถุนพระอุโบสถนั้น ไม่ได้มีห้องลับตามที่มีคนกล่าวอ้าง  จากนั้นได้พาสื่อมวลชนเข้าเก็บภาพภายใน โดยจะเข้าได้ครั้งละ30คน และสามารถเข้าได้เพียงช่องทางเดียว ที่มีความสูงประมาณ1เมตร ความกว้างประมาณ1.5เมตร  ภายในใต้ถุนมีลักษณะเป็นห้องสี่เหลี่ยม และเป็นเก็บพวกอุปกรณ์การก่อสร้าง และอุปกรณ์สำหรับการใช้งานภายในวัด   โดยพระนพพรได้ชี้แจ้งว่า สาเหตุที่นำอุปกรณ์ก่อสร้างมาเก็บไว้ภายในใต้ถุน เนื่องจากบริเวณดังกล่าวใกล้พื้นที่ก่อสร้าง


จากนั้น ได้พาสื่อมวลชนเยี่ยมชมอุโบสถแล้ว นายองอาจได้แถลงยืนยันอีกครั้งว่าปราศจากอาวุธทีาจะเป็นภัยต่อประเทศชาติ และได้ให้สื่อมวลชนลงนามว่าปราศจากอาวุธจริง พร้อม ยืนยันความบริสุทธิ์ของพระธัมมชโยว่า พระธัมมชโยไม่ได้มีการปกปิดเส้นทางทางการเงินแต่อย่างใด โดยรับบริจาคแบบเปิดเผยสุจริต , เงินที่ได้รับจากการบริจาคทั้งหมด ไม่ได้นำมาใช้ส่วนตัวหรือโอนถ่ายกลับไปให้นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประทานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ส่วนเงินที่ลูกศิษย์บริจาคส่วนตัวกว่าหมื่นล้านบาท ทางพระธัมมชโยไม่มีการนำออกมาใช้ส่วนตัว โดยโอนผ่านบัญชีบริจาคแก่วัดและมูลนิธิ และสุดท้ายความดีที่พระธัมมชโยได้สร้าง ทำให้มีลูกศิษย์หลายล้านคน ทั้งนี้อาการของพระธัมมชโยยังมีอาการหนักต้องใช้ยาแก้ปวด ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด 


+++พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้รับรายงานเรื่อง ตรวจสอบศูนย์ปฏิบัติธรรม เวิร์ลพีซวัลเล่ย์ เขาใหญ่ ตั้งอยู่บ้านหนองจอก ม.6 ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จำนวน 480 ไร่ ของวัดพระธรรมกายแล้ว ส่วนทางโฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายบอกถ้ามีหลักฐานเช็ค 7 ฉบับ เงิน 400 กว่าล้านบาทก็จะมอบคืนสหกรณ์ฯ คลองจั่นนั้น เคยพูดหลายครั้งแล้วว่าถ้าถูกขโมยรถยนต์ไปแล้วก็เอารถยนต์มาคืนและบอกว่าไม่ผิดกฎหมาย เป็นไปได้หรือไม่ มันผิดกฎหมายทั้งนั้นเนื่องจากเป็นหลักคิดเดียวกันาน นอกจากนั้น ยังได้เชิญผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มาพูดคุย คุย 3 คนกับนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า พศ.ต้องมีบทบาทให้มากขึ้น ศาสนสถานเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมไม่ควรถูกใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติไม่เหมาะสม พศ.จะตักเตือนได้หรือไม่ ขอร้องให้ พศ.ควรมีบทบาทในการกำหนดหน้าที่ที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ศาสนา การประพฤติตนของสงฆ์ การประพฤติตนของผู้ไปปฏิบัติธรรม พศ.ควรออกมาชี้แจงว่าอะไรควรไม่ควร เราไม่สามารถพูดแทน พศ. กำชับดีเอสไอว่าไม่ควรพูดประเด็นศาสนา เพราะไม่ได้เป็นผู้ดูแลเรื่องนี้ ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่าดีเอสไอจะไปขอศาลออกหมายค้นวัดธรรมกายครั้งที่ 2 วันใด คงต้องรอดูช่วงเวลาที่เหมาะสมจึงจะดำเนินการขอหมายค้น ขอเวลาทำงานอีกสักระยะ 


+++ กรณี "ตั้ว" กีรติ ชลสิทธิ์ แจ้งพบ นางสมพร ชลสิทธิ์ อายุ 90 ปี มารดา ป่วยโรคอัลไซเมอร์ ถูกลูกชายของพี่สาวที่มารดารับมาอุปการะ นำตัวออกไปจาก รพ.วิชัยยุทธ ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. นายกีรติ ได้นำตัวนางสมพร เดินทางจาก จ.ชลบุรี มาที่ รพ.ศิริราช เพื่อเข้ารับการรักษาและตรวจร่างกายอย่างละเอียด เมื่อคืนวันที่ 21 มิ.ย. มีคนแจ้งว่าพบคนนามสกุลเดียวกับตนมารักษาตัวอยู่ที่ รพ.สมิติเวช ศรีราชา จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าเป็นมารดาของตนจริง ๆ หากอาการไม่มีอะไรมาก ก็จะพากลับบ้าน โดยจ้างการ์ดมาคอยรักษาความปลอดภัยปัจจุบันยังติดปัญหาอยู่ที่ตนยังต้องร่วมเป็นผู้อนุบาลกับคู่กรณี จึงจะไปยื่นขอเป็นผู้อนุบาลแม่เพียงคนเดียวต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยในวันที่ 26 ก.ค.นี้ ส่วนความขัดแย้งเรื่องมรดกนั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ส่วนที่คู่กรณีไปแจ้งความว่าตนขโมยตู้เซฟ ขอชี้แจ้งว่า เซฟดังกล่าวเป็นของแม่ตน ขอปล่อยให้เป็นกระบวนการตามกฎหมาย จนถึงขณะนี้ตำรวจก็ยังไม่ได้ประสานอะไรมา


+++ความคืบหน้า การนับคะแนนการลงประชามติว่า สหราชอาณาจักรจะยังเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป หรืออียูต่อไปหรือไม่ โดยพบว่านับคะแนน 15 เมืองจาก 382 หน่วย พบว่าคะแนน 2 ฝ่ายยังมีความใกล้เคียงกัน ล่าสุดมีการนับคะแนน พบว่า คะแนนอยู่ต่อคิดเป็นร้อยละ 48.5  ส่วนคะแนน ออกจากอียู ร้อยละ 51.5 


 
ข่าวทั้งหมด

X