*สรุปข่าว 19.35น*
++++การรับมือปัญหาน้ำท่วมรอการระบายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่าได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดูแลการพร่องน้ำคลองลาดพร้าวให้เร็วที่สุด ซึ่งเมื่อน้ำในคลองลาดพร้าวพร่องลดลง จะสามารถระบายน้ำจากคลองโคกครามได้ โดยขณะนี้ระดับน้ำคลองลาดพร้าวต่ำกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 20 ซม. ทำให้น้ำในคลองต่างๆ กำลังไหลลงไปได้ ซึ่งเส้นทางของน้ำจากจุดนี้ผ่านคลองลาดพร้าวไปยังอุโมงค์พระราม 9 ต้องใช้เวลากว่า 7 ชั่วโมง จึงขอให้ประชาชนอดใจรอสักนิด เชื่อว่าจะสามารถระบายน้ำได้ดีต่อไป ส่วนมาตรการต่อไปหากเกิดฝนตกหนักอีกครั้ง กทม.จะพยายามพร่องน้ำในคลองต่างๆ ให้สูงสุดมากเท่าที่จะทำได้ ซึ่งคาดว่าหากอุโมงค์แห่งใหม่ใต้คลองบางซื่อแล้วเสร็จ จะสามารถช่วยดึงน้ำจากจุดนี้ได้ดีมากยิ่งขึ้น
+++ การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 วาระแรก วงเงิน 2.73 ล้านล้านบาทที่ประชุม สนช.ลงมติเห็นชอบรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 ด้วยคะแนน 189 งดออกเสียง 3 พร้อมทั้งกำหนดเวลาในการแปรญัตติ 15 วัน ระยะเวลาการดำเนินการ 90 วัน ก่อนประธาน สนช. จะสั่งปิดการประชุมในเวลา 18.00 น. อย่างไรก็ตามการประชุมใช้เวลาทั้งสิ้น 8 ชั่วโมง ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. นำทีมชี้แจงงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2559 มีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 3-3.5 ปรับตัวดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่าย และการลงทุนภาครัฐที่ขยายตัวในระดับสูง ยอมรับว่า การจัดทำงบประมาณนั้น รัฐบาลมีข้อจำกัดมากขึ้น เพราะมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นเร็วกว่ารายได้ แต่การขึ้นภาษีทำได้ยาก
+++ศาลอังกฤษ มีคำตัดสินให้ยึดทรัพย์ผู้ผลิตเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดปลอม จีที 200 จำนวนเกือบ 400 ล้านบาท นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวว่า จะหารือว่าจะให้หน่วยงานใดเป็นตัวแทนรัฐในการเรียกเงินเยียวยา โดยคาดว่าจะเป็นสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เพราะมีกฎหมายด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอยู่ ส่วนประเด็นที่ 2 คือ ดูการรับผิดในส่วนของประเทศไทย เมื่อมีการซื้อเครื่องดังกล่าวมาแล้ว แต่ประสิทธิภาพไม่ตรงกับที่คิด เราจึงเป็นผู้เสียหาย ที่สามารถเรียกเงินเยียวยาอย่างที่หลายประเทศได้ทำ ส่วนการจัดซื้อเป็นความผิดหรือไม่ ข้อเท็จจริงคือ คนซื้อจะมีความผิดด้วยต่อเมื่อมีการทุจริต แต่จะมีจริงหรือไม่ ขณะนี้การตรวจสอบอยู่ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งความรับผิดในส่วนของเรายังไม่มีอะไรต้องดูในตอนนี้ เพราะเป็นหน้าที่ ป.ป.ช. รัฐจะเข้าไปดูซ้อนไม่ได้ ความเสียหายของหน่วยงานต่างๆ ในประเทศไทยที่ซื้อเครื่องดังกล่าวทั้งหมด รวมกันมีมูลค่าประมาณ 600-800 ล้านบาท มากกว่าทรัพย์สินของบริษัทผู้ผลิตที่ถูกศาลมีคำสั่งยึดราว 400 ล้านบาทเสียอีก
+++นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวว่า ในคดีทางแพ่งจะมีการติดตามทวงคืนความเสียหาย โดย สตง.ได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีส่วนร่วมในการดำเนินการ เพราะเป็นการฉ้อโกงข้ามชาติ เป็นอาญาแผ่นดิน เพราะเข้าข่ายอำนาจของ ปปง. นอกจากนี้ยังทำหนังสือถึงศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ให้ดำเนินการทางแพ่งและทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
+++ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าเรื่องดังกล่าวมี 2 ประเด็น ต้องแยกกันให้ชัดเจน มีทั้งประเด็นการขอรับค่าชดเชย และประเด็นขั้นตอนการจัดซื้อที่ต้องตรวจสอบ ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ได้รับหนังสือจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน โดยตามขั้นตอนต้องส่งไปที่นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขาฯ ศอตช. และต้องขอดูรายละเอียดก่อน แต่ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นผู้เสียหายก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับการเยียวยา ซึ่งกรณีดังกล่าวไม่ ต่างจากกรณีการหลอกลวงแชร์ลูกโซ่ ซึ่งต้องได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย เป็น คนละประเด็นกับการตรวจสอบขั้นตอนการจัดซื้อ
+++กระแสข่าวปลดนายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกจากตำแหน่งเนื่องจากไม่สนองนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะกรณีพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ย้ายหรือปลดนายพนมตามที่มีกระแสข่าว ผู้อำนวยการสำนักพุทธฯ ยังทำหน้าที่สนองงานของรัฐบาลและช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่ รวมถึงให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย ขณะที่งานด้านอื่น ๆ เช่นการปฏิรูปก็เดินหน้าเช่นเดียวกับการแก้ไขปัญหาวัดพระธรรมกายก็ให้ความร่วมมือ ทุกฝ่ายค่อยๆ แก้ปัญหากันไป ขอย้ำว่าการดำเนินการกับวัดพระธรรมกายของสำนักงานพระพุทธศานาแห่งชาติทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายและตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่
+++พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้รับรายงานเรื่อง ตรวจสอบศูนย์ปฏิบัติธรรม เวิร์ลพีซวัลเล่ย์ เขาใหญ่ ตั้งอยู่บ้านหนองจอก ม.6 ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จำนวน 480 ไร่ ของวัดพระธรรมกายแล้ว ส่วนทางโฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายบอกถ้ามีหลักฐานเช็ค 7 ฉบับ เงิน 400 กว่าล้านบาทก็จะมอบคืนสหกรณ์ฯ คลองจั่นนั้น เคยพูดหลายครั้งแล้วว่าถ้าถูกขโมยรถยนต์ไปแล้วก็เอารถยนต์มาคืนและบอกว่าไม่ผิดกฎหมาย เป็นไปได้หรือไม่ มันผิดกฎหมายทั้งนั้นเนื่องจากเป็นหลักคิดเดียวกันาน นอกจากนั้น ยังได้เชิญผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มาพูดคุย คุย 3 คนกับนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า พศ.ต้องมีบทบาทให้มากขึ้น ศาสนสถานเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมไม่ควรถูกใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติไม่เหมาะสม พศ.จะตักเตือนได้หรือไม่ ขอร้องให้ พศ.ควรมีบทบาทในการกำหนดหน้าที่ที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ศาสนา การประพฤติตนของสงฆ์ การประพฤติตนของผู้ไปปฏิบัติธรรม พศ.ควรออกมาชี้แจงว่าอะไรควรไม่ควร เราไม่สามารถพูดแทน พศ. กำชับดีเอสไอว่าไม่ควรพูดประเด็นศาสนา เพราะไม่ได้เป็นผู้ดูแลเรื่องนี้
พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ดีเอสไอจะเร่งสรุปสำนวน 3 คดีที่พบว่ามีข้อมูลเชื่อมโยงไปถึงวัดพระธรรมกาย คือ 1. คดีนายสถาพร วัฒนาศิรินุกุล ผู้บริหารบริษัท เอส.ดับบลิว.โฮลดิ้งกรุ๊ป (ประเทศไทย) 2. คดีเกี่ยวกับการซื้อที่ดินเพื่อนำไปสร้างโรงพยาบาลของวัดพระธรรมกาย และ 3. คดีบริษัท เอ็ม-โฮมฯ ที่เกี่ยวข้องกับการถือหุ้นแทนนายศุภชัย ทั้ง 3 คดีนี้คาดว่าจะเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ ส่วนคดีนายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ ประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนรัฐประชา และนายจิรเดช วรเพียลกุล อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการคลัง (สมัยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ที่ร่วมกันยักยอกทรัพย์มาจากสหกรณ์ฯคาดว่าจะสรุปสำนวนเสร็จภายในเดือน ก.ค.นี้ ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่าดีเอสไอจะไปขอศาลออกหมายค้นวัดธรรมกายครั้งที่ 2 วันใด คงต้องรอดูช่วงเวลาที่เหมาะสมจึงจะดำเนินการขอหมายค้น ขอเวลาทำงานอีกสักระยะ
+++หลัง ส.ท.ปัญญา เงินเหรียญ ทหารสังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 19 กองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี ถูกนายทหารยศ “ร้อยเอก” นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 47 สั่งลงโทษวินัยทหารให้วิ่ง และพุ่งหลัง หลังทำงานที่ได้รับมอบหมายไม่เสร็จ จนเกิดภาวะฮีทสโตรก ต้องนำส่งห้องไอซียู โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า จนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ล่าสุด พล.ต.ธรรมนูญ วิถี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 (ผบ.พล.ร.9) สั่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้อยเอกคนดังกล่าว พร้อมผู้แวดล้อมทั้งหมดแล้ว พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว พร้อมแสดงความเสียใจ โดยระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การซ้อมทรมาน แต่เป็นการลงโทษทางวินัยทหาร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องไม่คาดฝันและไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น พร้อมสั่งการให้ พล.ร.9 หาแนวทางช่วยเหลือครอบครัว ส.ท.ปัญญา ต่อไป
+++ กรณี "ตั้ว" กีรติ ชลสิทธิ์ อายุ 61 ปี ดีไซน์เนอร์ชื่อดัง เจ้าของห้องเสื้อ "ดวงใจบีส" เข้าพบ พ.ต.ท.ธรรมรักษ์ เรืองดิษฐ์ สว.(สอบสวน) สน.พญาไท เพื่อลงบันทึกประจำวัน หลัง นางสมพร ชลสิทธิ์ อายุ 90 ปี มารดา ป่วยโรคอัลไซเมอร์ ถูกลูกชายของพี่สาวที่มารดารับมาอุปการะ นำตัวออกไปจาก รพ.วิชัยยุทธ ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. นายกีรติ ได้นำตัวนางสมพร เดินทางจาก จ.ชลบุรี มาที่ รพ.ศิริราช เพื่อเข้ารับการรักษาและตรวจร่างกายอย่างละเอียด เมื่อคืนวันที่ 21 มิ.ย. มีคนแจ้งว่าพบคนนามสกุลเดียวกับตนมารักษาตัวอยู่ที่ รพ.สมิติเวช ศรีราชา จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าเป็นมารดาของตนจริง ๆ ซึ่งตอนแรกยังมีอาการจำตนไม่ได้ แต่ต่อมายิ้มแย้มเป็นปกติ อาการดีขึ้น จึงตัดสินใจพาตัวกลับมารักษาที่ รพ.ศิริราช ซึ่งหากอาการไม่มีอะไรมาก ก็จะพากลับบ้าน โดยจ้างการ์ดมาคอยรักษาความปลอดภัยปัจจุบันยังติดปัญหาอยู่ที่ตนยังต้องร่วมเป็นผู้อนุบาลกับคู่กรณี จึงจะไปยื่นขอเป็นผู้อนุบาลแม่เพียงคนเดียวต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยในวันที่ 26 ก.ค.นี้ ส่วนความขัดแย้งเรื่องมรดกนั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ส่วนที่คู่กรณีไปแจ้งความว่าตนขโมยตู้เซฟ ขอชี้แจ้งว่า เซฟดังกล่าวเป็นของแม่ตน ขอปล่อยให้เป็นกระบวนการตามกฎหมาย จนถึงขณะนี้ตำรวจก็ยังไม่ได้ประสานอะไรมา
+++คดีนายสุวีระ หรือคิว บุญรอด นักร้องนำวงฟลัว และนายธารเทพ ขานทรงกิจ ประสบอุบัติเหตุถูก รถจยย.ซึ่งมีนายชุมพล ชูประดิษฐ์ ชนบาดเจ็บสาหัส ขณะกำลังข้ามถนนใกล้ซอยทองหล่อ 16 ร.ต.อ.อาทิตย์ เกตุทอง รอง สว.(สอบสวน) สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า เหลังสอบปากคำ นายชุมพล พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุซึ่งตรงตามคำให้การ ที่รถจยย.เสียหลักไถลลื่นมาเนื่องจากพื้นถนนลื่นจากฝนตก ก่อนที่รถจยย.จะมาโดนผู้บาดเจ็บทั้งคู่ และมีการเดินมาช่วยเหลือนำคนเจ็บเข้าไปข้างทาง โดยมีการปล่อยตัว โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์แต่อย่างใด เนื่องจากไม่ได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม แต่เป็นการเดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวนเอง หลังจากนี้จะมีการนัดมารายงานตัวอีกครั้งในวันที่ 10 ก.ค. นี้ ส่วนผู้บาดเจ็บอาการปลอดภัยทั้งคู่ ด้านผู้จัดการส่วนตัวคิว กล่าวว่า ขณะนี้ ยังต้องดูอาการวันต่อวัน แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง สำหรับคดีความทางครอบครัวคิวยืนยันผ่านทางผู้จัดการส่วนตัวตั้งแต่แรกว่าไม่คิดฟ้องร้อง ไม่เรียกร้องหรือต้องการชดใช้ค่าเสียหาย แค่อยากรู้ว่าเป็นใครและคิวโดนอะไรมา ซึ่งตอนนี้เรื่องชัดเจนหมดแล้ว
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดที่ 1,436.40 จุด เพิ่มขึ้น 11.72 จุด มูลค่าการซื้อขาย 45,702.21ล้านบาท
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ 172.63 จุด ที่ 16,238.35 จุด
+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดบวกขึ้นเล็กน้อย ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายหลังจากที่การลงประชามติว่าอังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรปหรือไม่ (Brexit) ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในวันนี้ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 73.22 จุด ที่ 20,868.34 จุด
+++สื่อตั้งคำถามและคำตอบหลายข้อเกี่ยวกับประเด็นลงประชามติของอังกฤษ หนึ่งในคำถามที่น่าสนใจคือจะเกิดอะไรขึ้น หากฝ่ายรณรงค์ให้อังกฤษออกจากกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู) หรือที่เรียกว่าเบร็กซิตเป็นฝ่ายชนะ คาดว่านายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนของอังกฤษจะเผชิญกับกระแสเรียกร้องให้ลาออกทันทีหรืออย่างน้อยกำหนดช่วงเวลาที่จะลาออกอย่างชัดเจน ในเรื่องเศรษฐกิจ คาดว่าค่าเงินปอนด์และราคาหุ้นจะร่วงในช่วงสั้นๆหลังเบร็กซิตเป็นฝ่ายชนะ จะทำให้ธนาคารกลางแห่งอังกฤษขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายด้านนายคาเมรอน กล่าวก่อนหน้านี้ว่าหากผลประชามติให้ออกจากกลุ่มอียูเป็นฝ่ายชนะ รัฐบาลอังกฤษจะขอให้สิทธิ์ตามสนธิสัญญาลิสบอนทันทีและเริ่มขั้นตอนเบร็กซิตที่ต้องใช้เวลาและมีขั้นตอนปฏิบัติที่สลับซับซ้อนพอสมควร ในบทความที่ผู้นำอังกฤษเขียนในหนังสือพิมพ์เทเลกราฟเมื่อวันอาทิตย์ ระบุว่าหากพลเมืองอังกฤษส่วนใหญ่เลือกที่จะออกจากกลุ่มอียู รัฐบาลก็ทำตามข้อเรียกร้องนั้น ซึ่งจะมีผลกระทบต่อทุกๆคนในอังกฤษ แม้ว่ารัฐบาลอังกฤษจะเริ่มใช้สิทธิ์ตามมาตรา 50 ของสนธิสัญญานั้นทันทีในวันที่ 24 มิถุนายนนี้ อังกฤษก็อาจจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปีจึงจะสามารถออกจากกลุ่มอียูได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ในช่วงการเจรจา 2 ปีนั้น กฏหมายต่างๆของอียูยังมีผลใช้กับอังกฤษต่อไป ขณะเดียวกันอังกฤษจะสามารถร่วมในภาคธุรกิจอื่นๆของกลุ่มอียูได้ตามปกติ แต่จะไม่เข้าร่วมการหารือภายในกลุ่มอียู