หลังมีรายงานข่าวว่า วัดพระธรรมกาย มีการซุกซ่อนสิ่งผิดกฎหมายและอุปกรณ์เพื่อใช้ก่อเหตุความรุนแรงไว้ใต้อุโบสถของวัดพระธรรมกาย นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์ของวัด และเจ้าหน้าที่วัด ได้พาสื่อมวลชนขึ้นรถรางที่วัดจัดเตรียมไว้5คันเพื่อตรวจเยี่ยมบริเวณพระอุโบสถ โดยเคลื่อนผ่านประตู5 ที่ปกติแล้วจะไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้ามาได้ เข้ามาชมภายในวัด โดยเมื่อเดินทางถึงอุโบสถมีพระมหานพพร ปุนยะชะโย ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย และนายองอาจ เป็นผู้นำสื่อมวลชนตรวจสอบภายในโบสถ์ ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ชั้นในสุด และเป็นจุดสิ้นสุดของวัด ที่อยู่ติดกับคลอง3
ก่อนหน้านี้พระมหานพพรได้นำสื่อมวลชนเข้ามาภายในอุโบสถเพื่อ กราบพระประทาน และอธิบายถึงประวัติการสร้างอุโบสถแห่งนี้ นายองอาจ ได้ยืนยันว่า ใต้ถุนพระอุโบสถนั้น ไม่ได้มีห้องลับตามที่มีคนกล่าวอ้าง จากนั้นได้พาสื่อมวลชนเข้าเก็บภาพภายใน โดยจะเข้าได้ครั้งละ30คน และสามารถเข้าได้เพียงช่องทางเดียว ที่มีความสูงประมาณ1เมตร ความกว้างประมาณ1.5เมตร ภายในใต้ถุนมีลักษณะเป็นห้องสี่เหลี่ยม และเป็นเก็บพวกอุปกรณ์การก่อสร้าง และอุปกรณ์สำหรับการใช้งานภายในวัด โดยพระนพพรได้ชี้แจ้งว่า สาเหตุที่นำอุปกรณ์ก่อสร้างมาเก็บไว้ภายในใต้ถุน เนื่องจากบริเวณดังกล่าวใกล้พื้นที่ก่อสร้าง
จากนั้น ได้พาสื่อมวลชนเยี่ยมชมอุโบสถแล้ว นายองอาจได้แถลงยืนยันอีกครั้งว่าปราศจากอาวุธทีาจะเป็นภัยต่อประเทศชาติ และได้ให้สื่อมวลชนลงนามว่าปราศจากอาวุธจริง พร้อม ยืนยันความบริสุทธิ์ของพระธัมมชโยว่า พระธัมมชโยไม่ได้มีการปกปิดเส้นทางทางการเงินแต่อย่างใด โดยรับบริจาคแบบเปิดเผยสุจริต , เงินที่ได้รับจากการบริจาคทั้งหมด ไม่ได้นำมาใช้ส่วนตัวหรือโอนถ่ายกลับไปให้นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประทานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ส่วนเงินที่ลูกศิษย์บริจาคส่วนตัวกว่าหมื่นล้านบาท ทางพระธัมมชโยไม่มีการนำออกมาใช้ส่วนตัว โดยโอนผ่านบัญชีบริจาคแก่วัดและมูลนิธิ และสุดท้ายความดีที่พระธัมมชโยได้สร้าง ทำให้มีลูกศิษย์หลายล้านคน ทั้งนี้อาการของพระธัมมชโยยังมีอาการหนักต้องใช้ยาแก้ปวด ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด