*องคมนตรี ดูงานด้านการเกษตรพื้นที่อ่างเก็บน้ำพระปรง จ.สระแก้ว*

การลงพื้นที่ติดตามการพัฒนาพื้นที่ราบเชิงเขาจังหวัดสระแก้ว-ปราจีนบุรี ตามพระราชดำริ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี พร้อมด้วยนายดนุชา สินธวานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.)  และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่อ่างเก็บน้ำพระปรงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ( โครงการพัฒนาพื้นที่ราบเชิงเขาตามพระราชดำริ) ตำบลช่องกุ่ม อำเภอวัฒนานคร  จังหวัดสระแก้ว

นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า พื้นที่ราบเชิงเขาจังหวัดสระแก้ว -ปราจีนบุรี ครอบคลุมพื้นที่ประมาน 407,543 ไร่ ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 55 อยู่ในพื้นที่ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งในช่วงปี 2520 ถึง 2521 พื้นที่บริเวณนี้ เคยเป็นป่าสงวนแห่งชาติที่อุดมสมบูรณ์ แต่ต่อมาถูกประชาชนบุกรุกเข้าไปเพื่อปลูกพืชไร่เป็นจำนวนมาก ทำให้พื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม ดินขาดความอุดมสมบูรณ์และขาด น้ำเพื่อการเกษตร ประกอบกับในพื้นที่เป็นพื้นที่ที่มีปัญหาด้านความมั่นคง ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ได้รับความเดือดร้อน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงพระราชทานพระราชดำริให้ดำเนินการพัฒนาพื้นที่ราบเชิงเขาดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ราบเชิงเขาจังหวัดสระแก้ว-ปราจีนบุรีตามพระราชดําริ โดยมีแนวทางพัฒนา 3 ด้านคือการพัฒนาด้านจิตใจราษฎร การพัฒนาความรู้ประกอบอาชีพและการจัดสรรที่ดินทำกินที่อยู่อาศัย โดยมีการจัดสรรที่อยู่อาศัยทำกินในรูปแบบหมู่บ้านสหกรณ์นิคม และพัฒนาเกษตรกรอาชีพการเลี้ยงสัตว์และประมง รวมไปถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า สำหรับอ่างเก็บน้ำพระปรงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีความจุ 97 ล้านลูกบาศก์เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 11,3 19 ไร่ และสามารถปล่อยน้ำช่วยเกษตรกรในพื้นที่ได้ถึง 25,000 ไร่  

นายประหยัด ถาวรยิ่ง ประธานกลุ่มบริหารผู้ใช้น้ำอ่างเก็บน้ำพระปรง กล่าวว่า  หลังจากอ่างเก็บน้ำสร้างเสร็จ ทำให้เกษตรกร มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพราะเมื่อก่อนเกษตรกรผู้ใช้น้ำอาศัยน้ำฝนซึ่งบางปีฝนก็ไม่ตกตามฤดู แต่เมื่อมีอ่างเก็บน้ำประชาชนก็ได้ประโยชน์ เต็มที่ทั้งการทำการเกษตร  เลี้ยงสัตว์ รวมไปถึงได้ความสามัคคีในกลุ่มสมาชิกผู้ใช้น้ำ ในการบำรุงรักษาอ่างเก็บน้ำร่วมกันอีกด้วย ทั้งนี้การบริหารจัดการของกลุ่มผู้ใช้น้ำ ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนาข้าวเป็นหลักรองลงมาคือปลูกพืชไร่ จำพวก อ้อยและมันสำปะหลัง โดยการบริหารจัดการกลุ่มได้มีการดำเนินงานในรูปแบบคณะกรรมการมีการประชุมอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำแผนปฏิบัติงานประจำปีเช่นการปลูกพืช การส่งน้ำบำรุงรักษา การกำจัดวัชพืช นอกจากนี้ กลุ่มบริหารการใช้น้ำอ่างพระปรง ยังเคยได้รับคัดเลือกเป็นสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติประเภทสถาบันเกษตรกรผู้ใช้น้ำชลประทานประจำปี 2552 อีกด้วย  

ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี