*ศาลรธน.นัดวินิจฉัยกม.ประชามติขัดรธน.29 มิ.ย./นายกอนุมัติแผนพัฒนาอู่ตะเภา/ปปช.เร่งสอบจีที200*

*สรุปข่าว 19.35น*

+++ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดแถลงด้วยวาจาพร้อมลงมติ กรณีผู้ตรวจการแผ่นดิน เสนอความเห็นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมาตรา 61  วรรคสอง  ของพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2559 ขัดต่อรัฐธรรมนูญชั่วคราวมาตรา 4 หรือไม่     ในวันพุธที่ 29 มิ.ย.เวลา 13.30 น. หลังการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณา ที่ประชุมได้พิจารณาคำขอของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ขอให้พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สนช. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ   และนายสมชาย แสวงการ สนช. ในฐานะเลขานุการ  กมธ.วิสามัญ มาแถลงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมด้วยวาจาต่อศาล    ซึ่งศาลเห็นว่า เอกสารหลักฐานในสำนวนมีเพียงพอที่ศาลจะวินิจฉัยได้แล้ว จึงมีคำสั่งไม่อนุญาตตามคำขอ  

+++สถานการณ์น้ำท่วมสูงในนิคมอุตสาหกรรมบางปู นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า หลังจากมีฝนตกต่อเนื่อง 2 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมจากเครื่องวัดปริมาณน้ำฝนรวม 340 มิลลิเมตร โดยมีระดับน้ำในเขตประกอบการเสรี มากกว่า 30 เซนติเมตร และในเขตทั่วไป ประมาณ 10-20 เซนติเมตร ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ซึ่งมีโรงงาน 15 แห่ง ที่ได้รับผลกระทบและประกาศหยุดทำการ จากโรงงานทั้งสิ้น 350 แห่ง เนื่องจากการเดินทางสัญจรไม่สะดวก ส่วนความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน ด้าน กนอ. ได้ประสานขอรถขนาดใหญ่จากหน่วยงาน คสช. กรมพลาธิการทหารบก หน่วยงานในท้องถิ่น และ กลุ่มผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อมาอำนวยความสะดวกรับส่งพนักงานในพื้นที่เขตประกอบการเสรี และนำเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่จากนิคมฯใกล้เคียงมาติดตั้งเพิ่มเติม รวมจำนวน 10 ตัว สามารถสูบในพื้นที่ ทั้งหมด ประมาณ 82,000 ลบม. ต่อชม. ซึ่งได้เปิดเดินเครื่องทุกสถาน และยังได้ประสานไปยังสำนักงานชลประทาน จ.สมุทรปราการ อำนวยความสะดวกในการควบคุมเปิดประตูระบายน้ำ เพื่อลดระดับน้ำคลองชลประทาน และเดินเครื่องสูบน้ำออกทะเล บริเวณสถานีสูบน้ำตำหรุ รวมถึงได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในการอำนวยความสะดวกของการ จราจรภายในพื้นที่และบริเวณเชื่อมต่อ คาดว่า ระดับน้ำในพื้นที่นิคมฯ จะกลับเข้าสู่ปกติได้เร็วๆนี้ หากไม่มีปริมาณฝนตกเพิ่มขึ้น ปัจจุบันนิคมฯ บางปู มีโรงงานทั้งสิ้น 350 แห่ง บนพื้นที่ 5,400 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นอุตฯพลาสติก ชิ้นส่วนยานยนต์ และเคมีภัณฑ์

++++ความคืบหน้าตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 นายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ  ป.ป.ช. กล่าวว่า คดีนี้ มีหลายสำนวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบของ ป.ป.ช. เพราะมีหน่วยงานเกี่ยวข้องหลายหน่วย สำนวนหลักในคดีนี้จะเกี่ยวข้องกับกระทรวงกลาโหม ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ นายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร กรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ต่างประเทศ จะเดินทางกลับประเทศไทยปลายสัปดาห์นี้  ขณะนี้สำนวนการจัดซื้อเครื่องจีที 200 ในส่วนกระทรวงกลาโหม มีความคืบหน้ามากใกล้จะสรุปข้อเท็จจริงเสร็จแล้ว เพราะมีการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดซื้อจัดจ้างมาให้ข้อมูลเกือบครบแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาสรุปสำนวนอีกไม่นาน ซึ่งนโยบายของคณะกรรมการ ป.ป.ช.กำหนดว่า คดีใหญ่ที่คั่งค้างมานาน และอยู่ในความสนใจของประชาชนจะต้องเร่งรัดให้ได้ข้อสรุปชี้ขาดภายในเดือน ก.ย.นี้ ผู้ถูกกล่าวหากรณีดังกล่าวเท่าที่ทราบไม่พบว่า มีรายชื่ออดีต ผบ.เหล่าทัพ มีส่วนเกี่ยวข้องรายชื่อผู้เกี่ยวข้อง ส่วนใหญ่เป็นหัวหน้าหน่วยงานที่จัดซื้อเครื่องจีที 200 เท่านั้น

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงรายละเอียดการพูดคุยกับนางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา โดยเฉพาะเรื่องของผู้อพยพลี้ภัย ว่า การเดินทางมาประเทศไทยครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการมาเยี่ยมเยียนกัน ส่วนเรื่องของผู้อพยพลี้ภัยนั้นก็ได้มีการหารือกันมา วันนี้ไม่ได้มาในฐานะประชาธิปไตยแต่มาในฐานะของรัฐบาลเมียนมา ดังนั้นรัฐบาลก็จะคุยกับรัฐบาล การพูดคุยก็จะเป็นลักษณะการคุยรัฐบาลกับรัฐบาล ซึ่งไม่มีปัญหาอะไรเพราะหลายเรื่องก็มีการพูดคุยกันมาก่อน รัฐบาลที่แล้วก็ฝากผมดูแลรัฐบาลนี้อยู่แล้ว ด้านนายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ล่าสุดได้มีการยกเลิกกำหนดการเดินทางไปเยี่ยมที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้หนีภัยการสู้รบจากพม่า ที่บ้านถ้ำหิน จ.ราชบุรี ของนางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ และรัฐมนตรีต่างประเทศของพม่า  ในวันที่ 25 มิถุนายนนี้แล้ว เนื่องจากปัญหาทางด้านสภาพอากาศที่เป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง

+++พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีขอบคุณกองทัพเรือที่ให้ความร่วมมือในการใช้ประโยชน์พื้นที่ในเชิงพาณิชย์อย่างเต็มที่ เช่น การพัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา และท่าเรือน้ำลึกจุกเสม็ด เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและขีดความสามารถของประเทศ  จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามและเร่งรัดแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ ถนน ราง ท่าเรือและอากาศ โดยเร่งรัดให้ดำเนินการให้รวดเร็ว ตอบสนองการพัฒนาทั้งระบบโครงการหรือแผนงานได้ มีงบประมาณแล้วก็เร่งดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบเวลาหรือรวดเร็วกว่านั้น ที่สำคัญจะต้องมีการเชื่อมโยงระหว่าง 3 สนามบิน คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง อู่ตะเภา สำหรับการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกจุกเสม็ดนั้นมีความสำคัญที่จะช่วยยกศักยภาพเรื่องการขนส่งและการท่องเที่ยว เช่น จุดจอดเรือยอร์ช และเชื่อมกับภูเก็ต จุดจอดเรือเฟอรี่ ที่สำคัญที่สุดจะต้องดูเรื่องการเชื่อมโยงไปท่าเรืออื่น ๆ เช่น แหลมฉบัง และสนามบินด้วย โดยนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบแผนพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ และมอบหมายให้จัดทำแผนปฏิบัติการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว หากมีประเด็นข้อกฎหมายหรืออุปสรรค ให้รีบนำเสนอเพื่อหาทางแก้ปัญหาโดยเร็ว ขอให้รับฟังความเห็นของประชาชนในพื้นที่ และสร้างความเข้าใจว่าการพัฒนานี้จะสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ เพิ่มโอกาสและยกรายได้ของประเทศอย่างยั่งยืน

+++ที่ประชุมกนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.5 ต่อ ปี หลังจากประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจยังฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายแน่นอนในช่วงครึ่งปีหลัง เช่นเดียวกับภาวะทางการเงินในปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายและเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่วนระยะต่อไปคณะกรรมการมองว่า อัตราดอกเบี้ยที่ผ่านคลายนี้น่าจะเพียงพอแล้วกับการดูแลเศรษฐกิจไทยให้ขยาย ตัวต่อเนื่อง และถ้าไม่มีอะไรเข้ามากระทบรุนแรง ก็ไม่จำเป็นต้องหยิบนโยบายทางการเงินมาใช้ คณะกรรมการยังได้ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 59 ยังขยายตัวได้ตามประมาณการเดิมที่ ร้อยละ3.1  ส่วนในปี 60 คาดว่าจะขยายตัวลดลงเหลือร้อยละ 3.% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว ร้อยละ 3.3  ตามการส่งออกสินค้าที่ปรับตัวลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าชะลอตัว โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าในปี 59 คาดว่าจะติดลบร้อยละ2.5  ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะติดลบร้อยละ 2  ส่วนในปี 60 มูลค่าการค้าจะปรับตัวดีขึ้นแต่ไม่ขยายตัว ซึ่งเป็นการปรับลดลงจากคาดการณ์ครั้งก่อนที่มองว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 0.1 แต่  แต่ด้านของการท่องเที่ยว ยังถือเป็นปัจจัยสำคัญด้านหนึ่งที่จะเข้ามาชดเชยตัวเลขการส่งออกที่หายไป โดยคาดว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 59 จะปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 43 ล้านคน และเพิ่มขึ้นถึง 36.7 ล้านคนในปี 60

++++ผู้ค้าน้ำมันปรับขึ้นราคากลุ่มเบนซิน 60 สตางค์/ลิตร ยกเว้น E85 เท่าเดิม ดีเซลขึ้น 50 สตางค์/ลิตร มีผล ตี5 พรุ่งนี้(23 มิ.ย.59)  สำหรับราคาใหม่เป็นดังนี้ เบนซิน 95 ราคา 31.96 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 25 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 ราคา 24.58 บาท/ลิตร E20 ราคา 22.44 บาท/ลิตร E85 ราคา 18.39 บาท/ลิตร ดีเซล ราคา 25.09 บาท/ลิตร (ราคานี้ยังไม่รวมภาษีท้องที่ของแต่ละจังหวัด

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดที่ 1,424.68 จุด ปรับตัวลดลง 6.12 จุด มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 43,658.28 ล้านบาท +++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงในวันนี้ เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการลงประชามติว่าด้วยการตัดสินใจว่าอังกฤษจะออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) หรือไม่นั้น ได้ส่งสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดวันนี้ ปิดตลาดร่วงลง 103.39 จุด ที่ 16,065.72 จุด

+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 126.68 จุด ที่ 20,795.12 จุด

+++หลังมีคำสั่งคสช. ย้ำมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาทของนักเรียนและนักศึกษา นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า ได้เรียกประชุมผู้บริหารวิทยาลัยอาชีวศึกษาของรัฐและเอกชนกลุ่มเฝ้าระวังพิเศษ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จำนวน 49 แห่ง เพื่อชี้แจงคำสั่งหัวหน้า คสช.ดังกล่าว โดยพบว่าผู้บริหารสถานศึกษาทุกคนเห็นด้วยว่าคำสั่งนี้มีผลในเชิงบวก และสร้างความมั่นใจให้แก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการดูแลเด็ก เพราะมีเครื่องมือที่สามารถกำกับดูนักเรียนนักศึกษาได้มากขึ้น เช่น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีตามหมวด 7 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครอบเด็ก พ.ศ.2546 มีอำนาจกักตัวนักเรียน นักศึกษาที่ก่อเหตุหรือเตรียมก่อเหตุทะเลาะวิวาทเป็นการชั่วคราวไม่เกิน 6 ชั่วโมง ซึ่งจากเดิมที่ไม่มี ดังนั้น จากนี้หากพนักงานเจ้าหน้าที่วินิจฉัยแล้วเห็นว่า นักเรียน นักศึกษามีพฤติกรรมที่อาจจะก่อเหตุทะเลาะวิวาท ก็สามารถใช้ดุลพินิจกักตัวไว้ได้ ซึ่งจุดนี้จะเป็นการป้องกัน ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นได้ ในส่วนของ สอศ. มีบุคคลที่เข้าข่ายจะเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ประมาณ 1,500 คน โดยจะมีการสำรวจว่ามีบุคคลที่ผ่านการอบรมแล้วกี่คน และจะดำเนินการจัดการอบรมเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานตามคำสั่ง คสช.ได้

+++ความคืบหน้า นายสุวีระ บุญรอด หรือ คิว นักร้องดังวงฟลัว ถูกรถชน ขณะข้ามถนนในซ.ทองหล่อ สุขุมวิท จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ล่าสุด รู้ตัวคนร้ายแล้ว โดยขณะนี้นายชุมพล ชูประดิษฐ์ อายุ 41 ปี พนักงานขับรถให้ผู้บริหารบริษัทเอกชน ซึ่งเป็นคนขับขี่รถจยย.ชนนายสุวีระ และเพื่อนนายธารเทพ ขานทรงกิจ ได้เข้ามอบตัว โดย เจ้าหน้าที่ได้ทำการแจ้ง 4 ข้อหาประกอบด้วยขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส, ชนแล้วหนี, ไม่พกใบอนุญาติขับขี่ และไม่มีพรบ.รถจยย.

+++นายเดฟ กู๊ดวิน อาสาสมัครจับงูชาวออสเตรเลีย กล่าวว่า งูหลามใหญ่ตัวหนึ่งยาว 5.2 เมตร ที่อาศัยอยู่บนหลังคาบ้านของนางทรินา ฮิบเบิร์ด ในหมู่บ้านมิสชั่น บีชในรัฐควีนสแลนด์ มานับ 10 ปีแล้วพยายามจะเลื้อยจากห้องรับแขกไปยังห้องนอนของเจ้าของบ้าน เมื่อเช้าวันจันทร์ เมื่อเจ้าของบ้านตื่นขึ้นมาตกใจเมื่อเจองูดังกล่าว หนัก 40 กิโลกรัมเลื้อยเข้าไปยังห้องนอนของเธอ ก่อนหน้านั้น งูดังกล่าวเลื้อยไปโดนปุ่มกดเปิดไฟของโคมไฟตัวหนึ่ง ทำให้โคมไฟร่วงลงพื้น ก่อนที่เจ้าของบ้านจะโทรศัพท์แจ้งอาสาสมัครให้ไปจับงู โดยนายกู๊ดวินใช้วิธีล่องูให้เข้าไปยังภาชนะพลาสติกใบหนึ่งที่ใช้สำหรับหมักเครื่องดื่มได้สำเร็จ ขณะนี้งูดังกล่าวถูกนำไปปล่อยไว้ในบ่อน้ำเสียแห่งหนึ่งในความดูแลของสภาท้องถิ่นชายฝั่งแคสโซแวรี เพื่อให้กำจัดหนู