*องคมนตรีติดตามโครงการห้วยโสมงฯจ.ปราจีนบุรีคืบหน้าร้อยละ85*

การลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานของอ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา ของโครงการห้วยโสมงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  จังหวัดปราจีนบุรี นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี พร้อมด้วยนายดนุชา สินธวานนท์ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.)  และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานของอ่างเก็บน้ำ นฤบดินทรจินดาของ โครงการห้วยโสมงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่อเมื่อปี 2521 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ พระราชทานพระราชดำริ ให้พัฒนาต้นน้ำลำธารปราจีนบุรี โดยให้พิจารณาสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำ 3 เขื่อน ได้แก่ เขื่อนห้วยพระปรง เขื่อนห้วยยาง และเขื่อนห้วยโสมง เพื่อจัดหาแหล่งน้ำให้ประชาชนใช้ทำการเพาะปลูกทั้งในช่วงฤดูฝนและฤดูแล้ง และเพื่อการอุปโภค – บริโภค

นายนายสุรชัย จิวะสุรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้าง 7  สำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่กรมชลประทาน กล่าวรายงานถึงความคืบหน้าโครงการว่า โครงการดังกล่าวเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปีงบประมาณปี 2553-2561 เป็นเขื่อนดิน มีความจุ 295 ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่รับประโยชน์ 111,300 ไร่  ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำปราจีนบุรีได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเขตอำเภอนาดี และกบินทร์บุรี นอกจากนี้ยังช่วยสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม บรรเทาปัญหาน้ำเน่าเสีย  อีกทั้งอ่างเก็บน้ำไม่เป็นประโยชน์แค่ปราจีนบุรีแต่ยังช่วยบรรเทาปัญหาอีก 6 จังหวัด เช่นสระแก้ว นครนายก ชลบุรี ฉะเชิงเทราและสมุทรปราการ ที่ไปช่วยผลักดันในเรื่องน้ำเค็มอีกด้วย 

ปัจจุบันมีผลการดำเนินงานดังนี้ ด้านการก่อสร้าง ประกอบด้วย งานก่อสร้างเขื่อนและอาคารประกอบ คิดเป็นร้อยละ ร้อยละ85 งานก่อสร้างระบบชลประทานฝั่งซ้ายดำเนินการก่อสร้างคลองส่งน้ำสายใหญ่ ความยาวประมาณ 47 กิโลเมตร และคลองส่งน้ำสายซอย 12 สาย รวมความยาว ประมาณ 37 กิโลเมตร โดยคาดว่าจะสามารถเก็บกักน้ำได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้ 

ด้านนายพลากร กล่าวว่า จากการรับฟังความคืบหน้าของโครงการมีความพอใจในความสำเร็จของโครงการ ที่มุ่งมั่นก่อสร้างเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนในภูมิภาคนี้ และเงินที่มาใช้ในโครงการนี้ก็เป็นเงินของประชาชนทั้งประเทศ จึงต้องใช้อย่างประหยัด ถูกต้อง และถูกใจประชาชนในส่วนรวม

ในส่วนของ สำนักงาน กปร. ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดฝึกอบรมอาชีพและให้ความรู้ทางวิชาการโดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  ให้ความรู้กับเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากการต้องย้ายออกจากพื้นที่ก่อสร้างโครงการ  เช่น  ด้านการปลูกพืช ด้านการแปรรูป ด้านปศุสัตว์ และการเกษตรผสมผสาน  ส่งผลให้ราษฎรมีความรู้และมีความพร้อมในการสร้างความมั่นคงให้แก่ตนเองและครอบครัวได้ดียิ่งขึ้น