*กรธ.ประเมินผลวิทยากรแจงร่างรธน./กองทัพส่งGT200ให้DSI/ศาลนัดคดีแพรวา 21 มิ.ย.ขยายเวลาคุมประพฤติ*

20 มิถุนายน 2559, 20:46น.


+++นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ฐานะประธานคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์และสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เปิดเผยว่าในวันที่ 21 มิ.ย. กรธ. จะนัดประชุมเพื่อพิจารณารายงานการติดตามและประเมินผลการทำหน้าที่ของวิทยากรและเครือข่ายของกรธ.ต่อการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์เนื้อหา สาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญในระดับหมู่บ้าน และชุมชน จากการติดตามและสังเกตการณ์พบว่าในบางพื้นที่ยังมีปัญหา เช่น การอธิบายสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ ที่ยังพบว่าวิทยากร ยังไม่เข้าใจเนื้อหาอย่างถ่องแท้ เช่น ระบบของการเลือกตั้งส.ส. ที่กรธ. ได้ใช้ระบบจัดสรรปันส่วนผสม ซึ่งจะนำทุกคะแนนเสียงมาเป็นเกณฑ์ของการได้มาซึ่งส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ เมื่อวิทยากรถูกซักถามจากประชาชนว่าแตกต่างจากระบบเลือกตั้งแบบเดิมอย่างไร และทำไมต้องนำคะแนนเลือกตั้งของผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งแพ้เลือกตั้งมาคิดคะแนน ก็ไม่สามารถตอบได้, การถูกจับตาจากกลุ่มต่างๆ ที่พบการข่มขู่ว่าจะติดตั้งกล้องถ่ายวิดีโอเพื่อตรวจสอบ ทำให้วิทยากรมีอาการเกร็ง และการชี้แจงไม่เป็นธรรมชาติ เพราะกังวลว่าจะพูดในสิ่งที่ผิดกฎหมาย รวมถึงปัญหาการเข้าถึงพื้นที่ของหมู่บ้าน ซึ่งพบว่าบางชุมชนหรือหมู่บ้านมีประชากรมากถึง 5,000 คน ทำให้วิทยากรระดับหมู่บ้านหรือชุมชนที่มี 4 คนทำงานไม่ทั่วถึง อีกทั้งวิทยากรระดับหมู่บ้านหรือชุมชนล้วนเป็นบุคคลที่มีงานประจำทำ ดังนั้นการทำงานอาจไม่ทั่วถึงและครอบคลุมพื้นที่ได้ ทั้งนี้มีบางพื้นที่เสนอให้ปรับค่าตอบแทนในพื้นที่จากเดิมได้รับคนละ 200 บาท ให้ได้รับจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น เป็นต้น จากการสังเกตการณ์ทั้งหมดเป็นประเด็นที่กรธ.ต้องนำไปหารือเพื่อหาทางแก้ปัญหาร่วมกัน อาทิ เสนอกระทรวงมหาดไทยให้ปรับค่าตอบแทน, ให้หลักประกันต่อการอธิบาย ชี้แจงเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อสร้างความมั่นใจและการคุ้มครองการทำหน้าที่อย่างไม่ผิดกฎหมาย เป็นต้น



+++พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่าพล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.) กำชับให้ทุกหน่วยงานดำเนินการตามกฎหมายเต็มที่ หากพบการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะการเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ(นปช.) เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ ได้รายงานผลการปฏิบัติงานว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งจากการเข้าไปพูดคุยกับกลุ่มนปช. เพื่อขอให้ยุติการจัดกิจกรรมดังกล่าวและได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี



+++รองโฆษกคสช. กล่าวถึงการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อบริษัทเครื่องตรวจระเบิดหรือ GT200 ว่ากองทัพบกได้ส่งข้อมูลทั้งหมดให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เพื่อพิจารณาฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ก่อนที่จะมีการตัดสินคดีของศาลโอลด์ เบลีย์ ประเทศอังกฤษ ที่ได้มีคำตัดสินให้ยึดทรัพย์ผู้ผลิตเครื่องตรวจวัตถุระเบิดปลอมจีที 200 กว่า 375 ล้านบาท ส่วนจะมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายหรือไม่ ขอให้สอบถามทางดีเอสไอ เพราะเรื่องนี้มีหลายหน่วยงานเข้าไปเกี่ยวข้องและแต่ละหน่วยงานก็ได้ให้ข้อมูลแก่ดีเอสไอเช่นเดียวกันกับกองทัพบก



+++ด้านผศ.ดร. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำวิชาชีววิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผย กรณีที่ศาลประเทศอังกฤษสั่งยึดทรัพย์ผู้ผลิตเครื่องตรวจจับระเบิดปลอมรุ่น จีที 200 เพื่อจ่ายเงินชดเชยผู้เสียหายว่า ประเทศอิรักได้ไปแจ้งความว่า เครื่องเอทีอี 651 ใช้งานไม่ได้ก่อนที่จะขยายไปถึงจีที 200 ซึ่่่งถือว่าเป็นเครือข่ายเดียวกัน และมีการส่งฟ้องดำเนินคดีกับเจ้าของบริษัท และมีการตัดสินจำคุกเรียบร้อยแล้ว และมีการตัดสินให้คืนเงินที่เป็นทรัพย์สินของเจ้าของบริษัทของ เอทีอี 651 มาชดใช้เยียวยากับผู้ที่เสียหายในเรื่องนี้ด้วย



+++ในส่วนของประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่จะต้องเยียวยาเพราะมีการสั่งซื้อเข้ามาน้อย ดังนั้นต้องดูว่าศาลอังกฤษจะมีการสั่งฟ้องคนอื่นอีกหรือไม่ ซึ่งคนที่ขายเครื่องจีที 200 ชื่อ แกลี่ โปตัน มีคำถามตามมาว่าจะถูกยึดทรัพย์หรือไม่ โดยไทยไม่เคยยื่นเรื่องนี้ว่าเป็นประเทศที่เสียหาย พร้อมทั้งเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาคำตอบที่ชัดเจนเรื่องนี้  



+++การดำเนินคดีพระธัมมชโย นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเนชั่นว่า นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หาทางออกกรณีที่ดีเอสไอ ไม่สามารถเข้าไปจับกุมพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย มาดำเนินคดีได้ โดยนายสุวพันธุ์ ให้หลักเกณฑ์ว่าต้องทำตามขั้นตอนของกฎหมาย และหาวิธีให้พระธัมมชโยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม นายพนม เปิดเผยว่า ได้ประสานงานเพื่อขอพูดคุยหาทางออกกับเจ้าคณะชั้นปกครอง โดยเฉพาะพระราชวิสุทธิเวที วัดชนะสงคราม เจ้าคณะภาค 1 และเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ซึ่งทั้ง 2 รูป ถือว่ามีหน้าที่โดยตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายสุวพันธุ์กำชับว่าด้วยว่าต้องเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เพื่อหาทางออกให้ได้โดยเร็ว



+++ในวันพรุ่งนี้ ดีเอสไอ ประชุมร่วมกับ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ถึงเส้นทางทางการเงินของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นด้วย



+++คดีน.ส. แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา จำเลยในคดีขับรถชนรถตู้บนทางด่วนโทลล์เวย์ มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ ศาลชั้นต้น สั่งให้จำคุก 3 ปี ฐานขับรถโดยประมาท ก่อนศาลอุทธรณ์จะเพิ่มโทษอีก 1 ปี รวมเป็น 4 ปี พร้อมทั้งให้บำเพ็ญประโยชน์ปีละ 48 ชั่วโมง จนครบ 4 ปี และศาลแพ่ง ก็สั่งให้ครอบครัวชดใช้ให้กับญาติของเหยื่อทั้งหมด รวมกว่า 26 ล้านบาท จนล่าสุด พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยว่า น.ส.แพรวา ทำผิดเงื่อนไขกรมคุมประพฤติยังไม่เคยไปทำงานบริการสังคมตามเงื่อนไขของกรมคุมประพฤติ ตามกฎหมายอาญามาตรา 56 แต่นำเอกสารมายื่นแสดงว่าไปทำงานบริการสังคมที่ รพ.พระมงกุฎฯ โดยอ้างว่ากลัวอันตราย จากนั้น พ.อ.พีรพล ปกป้อง รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ยืนยันว่า น.ส.แพรวา ได้ขอเข้ามาปฏิบัติสาธารณประโยชน์จริง รวมแล้ว 138 ชม. ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค.- 12 ก.พ. มีการจดเวลาเข้าออกการทำงาน ล่าสุด มีรายงานระบุว่า น.ส.แพรวา ทำงานบริการไม่ตรงกับเงื่อนไขว่า ตอนนี้ศาลได้ขยายระยะเวลาคุมประพฤติเพิ่มอีก 1 ปี เนื่องจาก ทำงานบริการสังคมไม่ครบ เพราะขาดอีก 48 ชั่วโมง ในวันพรุ่งนี้ ศาลจะนัดไต่สวนอีกครั้ง



+++การติดตามไกด์ที่ลอยแพนักท่องเที่ยวชาวจีน พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา จับกุม น.ส.นันทกานต์ หรือตาล กัณหาสินส์  อายุ 34 ปี อยู่บ้านม.5 ซ.บ้านหนองตาเล็ก ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี กับนายลี จินคุณ อายุ 28 ปี สัญชาติจีน 2 มัคคุเทศก์ที่รับผิดชอบกรุ๊ปทัวร์ดังกล่าว ขณะเดินอยู่บริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย เมื่อสอบสวน น.ส.นันทกานต์ รับสารภาพว่า ได้ลอยแพทิ้งนักท่องเที่ยวจริง เนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่ยอมซื้อแพ็คเกจทัวร์สถานบันเทิงแห่งหนึ่งเพิ่มเติม จึงไม่ให้กุญแจเข้าห้องพัก ซึ่งอยู่นอกเหนือโปรแกรม พอไม่ได้เลยปล่อยนักท่องเที่ยวทิ้งไว้ และไม่ให้กุญแจห้อง ส่วนนายลี จินคุน สัญชาติจีน เป็นคนที่ทางบริษัทต้นสังกัด มาทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์คู่ และเป็นผู้บรรยายแนะนำแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงจัดการเรื่องห้องพักและแจกกุญแจห้องให้กับนักท่องเที่ยว จากการตรวจสอบเอกสารของนายลี ไม่พบว่ามีบัตรประจำตัวมัคคุเทศก์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา เป็นมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาต, เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบอาชีพโดยไม่ได้อนุญาต ส่วนน.ส.นันทกานต์ แจ้งข้อกล่าวหา เป็นมัคคุเทศก์ยินยอมให้บุคคลอื่นซึ่งไม่มีใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์แทนตน ก่อนคุมตัวทั้งสองคนส่งตำรวจสภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



+++นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นัดประชุม สนช.ในวันพฤหัสบดีที่ 23 มิ.ย.เวลา 10.00 น.เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณประจำปี พ.ศ.2560 ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ ในวาระแรกขั้นรับหลักการ วงเงินงบประมาณ จำนวน 2,733,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการตั้งงบประมาณแบบขาดดุล มีวงเงินลดลงจากปีงบประมาณ พ.ศ.2559 จำนวน 43,000 ล้านบาท กำหนดเป็นรายจ่ายประจำ 2,103,422.2 ล้านบาท และเป็นรายจ่ายลงทุน 548,391 ล้านบาท ทั้งนี้ ได้ประมาณการรายได้สุทธิ จำนวน 2,343,000 ล้านบาท และกำหนดวงเกินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 390,000 ล้านบาท



+++ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณ ได้จัดทำขึ้นให้สอดคล้องกับร่างกรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี พ.ศ.2560 - 2579 ทิศทางและกรอบยุทธศาสตร์ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 พ.ศ.2560 - 2564 นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ.2558 - 2564 แผนแม่บทระดับชาติ และนโยบายสำคัญของรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานของรัฐบาลได้อย่างต่อเนื่องและเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ควบคู่ไปกับการสร้างเสถียรภาพในทุกมิติ



+++นายสมคิด  จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในวันพรุ่งนี้ (21 มิ.ย.)  จะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชุดใหม่ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของรายได้และช่วยเหลือเกษตรกรในฤดูการผลิตใหม่ที่กำลังจะมาถึงในเดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป นายสมคิด กล่าวว่า  แม้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาส1 ขยายตัวได้ถึงร้อยละ3.2 แต่ยังต้องลุ้นในช่วงที่เหลือของปี เพราะหลายปัจจัยขึ้นกับเศรษฐกิจโลกที่ยังผันผวน ประเทศไทยต้องพึ่งพาตัวเองและพึ่งพาอาเซียนที่ยังมีการเติบโตสูงทางเศรษฐกิจ ซึ่งต้องสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ยั่งยืน ความร่วมมือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ทำให้รัฐบาล ขยายสัดส่วนการค้าไทย-AEC เพิ่มจากร้อยละ10 เป็น20 และไทยจะเพิ่มการลงทุนในAEC จาก100 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ร่วมสนับสนุนให้ประเทศในกลุ่มAEC เดินควบคู่กับไทยเพื่อดึงการลงทุนจากต่างชาติ



+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ตลาดหุ้นไทย ค่อนข้างซบเซาลงและผันผวนสลับกันทั้งในแดนบวกและแดนลบทั้งวัน เนื่องจากนักลงทุนรอผลการลงประชามติเรื่องการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป(อียู) ของสหราชอาณาจักร ในวันที่ 23 มิ.ย. นี้ ผลสำรวจความคิดเห็นชาวอังกฤษสูสีใกล้เคียงมากว่าจะออกหรืออยู่ต่อ ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,421.99 จุด เพิ่มขึ้น 0.67จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 42,949.78  ล้านบาท แต่ยังดีที่ได้อานิสงส์ราคาน้ำมันรีบาวด์ โดยราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าสัญญาส่งมอบเดือนก.ค.ที่ตลาดนิวยอร์ก ปิดตลาดที่ระดับ 47.98 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.77 ดอลลาร์ ทำให้หุ้นพลังงานยังเป็นตัวพยุงตลาดไว้



 +++การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 340.22 จุด  ปิดที่ 20,510.20 จุด หลังจากผลสำรวจ ระบุว่า ชาวอังกฤษอาจจะเลือกโหวตสนับสนุนให้อังกฤษยังคงอยู่ในสหภาพยุโรป(อียู)ต่อไป ในการลงประชามติวันที่ 23 มิ.ย.นี้



+++จากปัจจัยเดียวกัน ทำให้ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 365.64 จุด แตะที่ 15,965.30 จุด



+++สถานการณ์ฝนตกหนักน้ำท่วมในจีน สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานอ้างสำนักป้องกันภัยน้ำท่วมและแก้ปัญหาภัยแล้งแห่งชาติจีนว่า มีคนเสียชีวิตรวมทั้งหมด 22 ศพ สูญหาย 15 คน บ้านเรือนเสียหาย10,500 หลัง ชาวบ้าน 2 แสน 67,800 คน อพยพไปยังที่ปลอดภัย หลังหลายท้องที่ถูกพายุพัดถล่มฝนตกหนัก น้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง พื้นที่เพาะปลูกเสียหาย 3 แสน 24,000 เฮกตาร์ สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจราว 7,340 ล้านหยวน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของจีน คาดว่าจะมีฝนตกหนักต่อเนื่องไปอีก 3 วัน



 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X