DSI ชี้แจงการขอหมายค้นวัดพระธรรมกายเพื่อจับกุมพระธัมมชโยเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย

20 มิถุนายน 2559, 15:11น.


คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงกรณีที่มีการวิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่ของดีเอสไอในการขออนุมัติศาลอาญาเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ว่าดำเนินการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากคดีดังกล่าวมีการสอบสวนเสร็จสิ้นและส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการก่อนที่จะยื่นศาลเพื่อขอหมายค้น โดยชี้แจงขั้นตอนการปฏิบัติงานให้สาธารณชนได้ทราบและเข้าใจ รวมทั้งป้องกันการสร้างกระแสข่าวเพื่อบิดเบือนกฎหมายและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐว่าดีเอสไอสอบสวนดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร เนื่องจากคดีการทุจริตภายในสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่เป็นคดีพิเศษไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยคดีนี้เป็นคดีพิเศษที่ 27/2559



ทางการสอบสวนมีการดำเนินคดีกับพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย พร้อมกับผู้ต้องหารายอื่น รวม 5 คน และพระเทพญาณมหามุนี ไม่มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยศาลอาญาได้ออกหมายจับไว้ในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจรเพื่อให้เจ้าพนักงานจับตัวมาดำเนินคดี ต่อมาพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องพระเทพญาณมหามุนี กับพวก รวม 5 คน ในข้อหาดังกล่าว และส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2559



พนักงานสอบสวนคดีพิเศษมีฐานะเป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 มาตรา 23 วรรคหนึ่ง ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 โดยยังมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามหมายหรือคำสั่งศาลในการติดตามจับกุมตัวบุคคลตามหมายจับในคดีพิเศษมาดำเนินคดีตามกฎหมาย มีข้อมูลว่าพระเทพญาณมหามุนี ซึ่งเป็นบุคคลมีหมายจับ อยู่ในบริเวณวัดพระธรรมกาย ซึ่งเป็นที่ส่วนบุคคล (ที่รโหฐาน) ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 81 กำหนดว่าไม่ว่าจะมีหมายจับหรือไม่ก็ตาม ห้ามมิให้จับในที่รโหฐาน เว้นแต่จะได้ทำตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายนี้อันว่าด้วยการค้นในที่รโหฐาน จึงได้ยื่นคำร้องขอหมายค้นต่อศาลเพื่อจับบุคคลดังกล่าว และศาลอาญาได้ใช้ดุลยพินิจซักถามเหตุผลความจำเป็นแล้วจึงออกหมายค้นให้กรณีดังกล่าว จึงเป็นกระบวนการตามกฎหมายทุกประการ และมิใช่กรณีไปทำการสอบสวนดังที่มีผู้วิจารณ์ อันเป็นการเข้าใจที่คาดเคลื่อน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็มีการปฏิบัติทำนองเดียวกันนี้ สำหรับการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่า



แฟ้มภาพ 



 

ข่าวทั้งหมด

X