ผู้แอบอ้างเป็นสารวัตรโจ้ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ระบุไม่พอใจถูกขับรถปาดหน้า

20 มิถุนายน 2559, 11:44น.


จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอผู้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศพันตำรวจโท หรือสารวัตรโจ้ ใช้อาวุธปืนข่มขู่ทำร้ายร่างกายผู้อื่น เหตุเกิดวันที่ 16 มิถุนายน ในพื้นที่ สน.บางโพงพาง พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นำตัวนายอุดมทรัพย์ ล้อมแก้วอายุ 40 ปีผู้ต้องหาที่อ้างตัวเป็นสารวัตรโจ้ ตามที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ พร้อมของกลางเป็นเสื้อผ้าที่ใส่ในวันเกิดเหตุรวมถึงปืนลูกโม่จุดสามแปด มาแถลงข่าวในวันนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางโพงพาง จับกุมตัวได้ที่จังหวัดนครราชสีมา  ทั้งนี้ ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายกิตติศักดิ์ แซ่หว่อง ผู้เสียหาย ได้ขับรถมาตาม ถ.รัชดาภิเษก มุ่งหน้าสู่แยกสาธุประดิษฐ์ และได้ขับรถแซงรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ส สีขาว ทะเบียน ชธ 6069 กทม. ในลักษณะปาดหน้ากัน แต่เมื่อถึงบริเวณ ถ.พระรามที่ 3 ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ รถยนต์ฮอนด้า แจ๊ส ได้ขับมาปาดหน้ารถผู้เสียหายเพื่อบังคับให้หยุดรถ จากนั้นนายอุดมทรัพย์ ได้เดินลงจากรถพร้อมอาวุธปืนสั้น แบบลูกโม่ ไม่ทราบขนาด โดยสวมหมวก และกางเกงขาสั้นเข้ามาพูดจาข่มขู่และเอาปืนจ่อผู้เสียหาย พร้อมทั้งอ้างว่าตนเองคือ สารวัตรโจ้ และได้เดินกลับไปที่รถและขับรถหลบหนีไป ต่อมาพนักงานฝ่ายสืบสวน สน.บางโพงพาง สืบทราบว่า รถยนต์คันนี้ มีนายอุดมทรัพย์ เป็นผู้ครอบครอง จึงได้นำรูปจากข้อมูลทะเบียนราษฎร์มาให้ผู้เสียหายตรวจสอบ โดยผู้เสียหายยืนยันว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับผู้ที่ข่มขู่ เจ้าพนักงานจึงขออนุมัติต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับผู้ต้องหา และพบผู้ต้องหานำรถยนต์ไปจอดทิ้งไว้ที่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี และนำอาวุธปืนพก ไปทิ้งไว้ที่บ้านญาติ ที่ อ.บ้านนา จ.นครนายก ส่วนตัวผู้ต้องหาหลบหนีอยู่ในพื้นที่ อ.จักราช จ.นครราชสีมา จึงนำกำลังจับกุมและนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.บางโพงพาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



ทั้งนี้ นายอุดมทรัพย์ รับสารภาพว่าเป็นบุคคลในคลิปจริง ส่วนที่อ้างว่าเป็นสารวัตรชื่อโจ้ ก็เพราะต้องการทำให้คนขับรถยนต์ที่ขับปาดหน้ารถรู้สึกผิดและลดความเร็วลง เนื่องจากปกติจะมีลูกสาวอายุ 8 ขวบนั่งมาอยู่ด้วย แม้ในวันที่เกิดเหตุลูกสาวจะไม่ได้มาด้วย แต่เมื่อพบรถคู่กรณีที่ขับรถด้วยความเร็วและปาดหน้า ก็รู้สึกไม่พอใจ จึงต้องการขู่ไม่ให้เหตุการณ์เลวร้ายมากกว่านี้ ยืนยันว่าไม่ได้เอาปืนออกจากซอง ทั้งระบุด้วยว่าไม่ใช่ปืนของตัวเอง แต่มีคนมาจำนำเอาไว้และจะมาไถ่คืนในเวลา 17:00 น. ของวันเกิดเหตุ



ขณะที่นายกิตติศักดิ์ ผู้เสียหาย ยอมรับว่าในวันเกิดเหตุขับรถปาดหน้ารถนายอุดมทรัพย์จริง และกล่าวขอโทษไปแล้ว แต่การนำปืนออกมาขู่ รวมถึงการพูดด่าทอและขู่ฆ่าเป็นเรื่องไม่สมควร ส่วนการดำเนินคดีต้องขอปรึกษากับทนายก่อน พร้อมยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด



ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน ตั้งข้อกล่าวหานายอุดมทรัพย์ กระทำความผิดในข้อหามีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกอาวุธปืนไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้ตกใจกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ โดยมีอาวุธ ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ 



..



ผสข.พนิตา สืบสมุทร 

ข่าวทั้งหมด

X