นายโธมัส แมร์ คนร้าย วัย 52 ปีที่บุกยิงและแทงนางโจ ค็อกซ์ ส.ส.หญิงพรรคแรงงาน วัย 41 ปี จนเสียชีวิตกลางถนนในอังกฤษ ได้ถูกนำตัวขึ้นศาลแขวงเวสต์มินสเตอร์ ในกรุงลอนดอน เพื่อรับทราบข้อหา โดยนายแมร์ปฏิเสธที่จะบอกชื่อ วันเดือนปีเกิด และที่อยู่ต่อผู้พิพากษา กลับอ้างว่า “ตนเป็นยมทูตของผู้ทรยศ และตัวแทนอิสรภาพเพื่อสหราชอาณาจักร” ระหว่างให้การ ทั้งนี้ นายแมร์ ซึ่งถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม จงใจทำร้ายร่างกาย และครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมายด้วยเจตนาที่จะก่อความผิดอุกฉกรรจ์ มีกำหนดขึ้นศาลอาญากลางในกรุงลอนดอน ในวันจันทร์นี้ พร้อมรายงานผลการตรวจทางจิตเวช
เหตุรุนแรงเกิดขึ้นขณะที่นางค็อกซ์รณรงค์เรื่องการลงประชามติสนับสนุนให้อังกฤษคงเป็นสมาชิกภาพในกลุ่มสหภาพยุโรป หรือ อียู ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ทางตอนเหนือของอังกฤษ เมื่อวันพฤหัสบดี โดยก่อนเกิดเหตุ ผลการสำรวจความคิดเห็นชาวอังกฤษ พบว่า กลุ่มที่สนับสนุนให้อังกฤษออกจากอียูกำลังมีคะแนนนำร้อยละ 52 ต่อ 48 แต่หลังเกิดเหตุฆาตกรรม ตลาดหุ้นและค่าเงินปอนด์ดีดตัวขึ้น จนนักวิเคราะห์การเงินบางคนเห็นว่า เป็นโอกาสให้ฝ่ายที่สนับสนุนอังกฤษเป็นสมาชิกอียูต่อไป แต่สื่อมวลชนยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ เช่น นสพ.ซันเดย์ ไทม์ส รายงานว่า การพลิกกลับมามีคะแนนนำของฝ่ายที่สนับสนุนอังกฤษให้อยู่ในกลุ่มอียูต่อไป เป็นผลจากประชาชนชาวอังกฤษเริ่มวิตกกังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา หากอังกฤษต้องออกจากกลุ่มอียู มากกว่าเป็นเพราะการเสียชีวิตของนางค็อกซ์ ทั้งนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ เตือนว่า หากอังกฤษออกจากกลุ่มอียู เศรษฐกิจของอังกฤษจะมีขนาดเล็กลงกว่าอยู่ในกลุ่มอียูมากกว่าร้อยละ 5 ภายในปี 2562 ขณะที่นายเอ็มมานูเอล มา-ครง รมว.เศรษฐกิจของฝรั่งเศสระบุว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะมีขนาดเล็กลงและมีบทบาทสำคัญต่อเวทีโลกไม่มากไปกว่าเกาะ “เกินซีย์” เกาะขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ท่ามกลางช่องแคบระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส แต่หากอังกฤษต้องการเข้าถึงตลาดการค้าในยุโรป อังกฤษต้องมีส่วนช่วยสนับสนุนงบประมาณยุโรป ดังเช่น นอร์เวย์ และสวิตเซอร์แลนด์ ขณะที่นายมาริโอ มอนติ อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี เห็นว่า รัฐบาลอังกฤษตัดสินใจกระทำการเสี่ยงต่อการยุบกลุ่มอียู เพื่อเสริมสถานะของนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ภายในพรรค ทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงต่ออนาคตของสก็อตแลนด์ในการแยกตัวออกจากสหราชอาณาจักรอีกด้วย
*-*
(1100 F171)