*ไอเอ็มเอฟ เตือนจีดีพีอังกฤษอาจโตไม่ตามเป้าหากออกจากอียู*

ก่อนที่อังกฤษ จะจัดการลงประชามติเพื่อตัดสินอนาคตว่าจะอยู่หรือไปจากสหภาพยุโรป หรืออียู ในกลางสัปดาห์หน้า กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ ออกมาเตือนว่าการออกจากการเป็นสมาชิกภาพแห่งอียูของอังกฤษ อาจจะทำให้ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีของอังกฤษในปี 2562 ที่ตั้งไว้ที่ระดับร้อยละ5.6 อาจไม่เป็นไปตามเป้าหมาย พร้อมระบุด้วยว่า การออกจากประชาคมอียูเป็นความเสี่ยงในระยะใกล้ครั้งใหญ่ที่สุดต่อเศรษฐกิจของอังกฤษ คำเตือนของไอเอ็มเอฟปรากฎอยู่ในรายงานการประเมินภาวะเศรษฐกิจของอังกฤษประจำปีที่ไอเอ็มเอฟจัดทำขึ้น ยังชี้ว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจของอังกฤษมีแนวโน้มเป็นไปในทางลบและมีขนาดใหญ่ เนื่องจาก อังกฤษต้องเปิดการเจรจาการค้าภายใต้เงื่อนไขใหม่กับอียู และเสี่ยงที่จะมีอุปสรรคทางการค้ามากขึ้น ขณะที่ภาวะความไม่แน่ใจเกี่ยวกับเศรษฐกิจในระยะยาวของอังกฤษ อาจนำไปสู่ภาวะความผันผวนของตลาดและไม่เกิดผลดีต่อบรรยากาศการลงทุน ซึ่งขณะนี้เริ่มปรากฏให้เห็นบ้างแล้วในภาคอสังหาริมทรัพย์

อย่างไรก็ตาม นายแพทริก มินฟอร์ด นักเศรษฐศาสตร์ที่สนับสนุนการออกจากอียูของอังกฤษแย้งว่า การวิเคราะห์ของไอเอ็มเอฟอยู่บนพื้นฐานของโมเดลอียูแบบรวมศูนย์ซึ่งมีข้อผิดพลาดมากมาย และเห็นว่าผลดีของการออกจากอียูคือการกลับไปใช้กฎข้อบังคับด้านการค้าขององค์การค้าโลก ซึ่งทำให้อังกฤษสามารถขจัดอุปสรรคทางการค้าได้มากขึ้น และคาดว่าในที่สุดจะทำให้ราคาสินค้าลดลงได้ถึงร้อยละ 8 และส่งผลให้ตัวเลขจีดีพีเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 นายมินฟอร์ด มองว่า รัฐบาลอังกฤษมีความสามารถในการจ่ายเงินชดเชยแก่เกษตรกรและผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ได้รับความเสียหายจากการถอนตัวออกจากอียูได้ และในทางกลับกัน การออกจากอียูจะทำให้ภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษมีการปรับตัวด้านประสิทธิภาพในการผลิตเพื่อแข่งขันกับตลาดโลกมากขึ้น ขณะที่นายแมทธิว เอลเลียต ผู้นำการรณรงค์ให้อังกฤษออกจากอียูกล่าวเสริมว่า ไอเอ็มเอฟมองข้ามผลประโยชน์ของอังกฤษที่จะได้จากการออกจากอียู และกลับไปมองเพียงผลกระทบด้านลบเท่านั้น ซึ่งจากการวิเคราะห์ของเขาพบว่าชาวอังกฤษจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 3 แสนอัตรา หากออกจากอียู 

ทีมต่างประเทศ

CR:BBC