*รรท.ผบช.น.ย้ำแม้ผตห.ปฎิเสธ แต่พยานหลักฐานสำคัญกว่าคดีฆ่าอดีตรองผู้ว่าฯกปน.*

หลังจากสอบปากคำ นายพัฒนะ กวี อายุ 48 ปี กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิศวกรที่ปรึกษา พี.เอช.2000 จำกัด ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฆ่านายวีรชาติ โอฬาพิริยกุล อดีตรองผู้ว่าการการประปานครหลวง (ฝ่ายผลิตและส่งน้ำ) เสียชีวิตในสถานที่ก่อสร้าง ของบริษัทเทรเชอร์ เอสเตท จำกัด เลขที่ 930 ถนนหลวงแพ่ง แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง  เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 16 มิถุนายน  พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล3  ได้สอบปากคำนายพัฒนะ ด้วยตัวเอง

พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า หลังได้รับรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชาว่าผู้ต้องหารับสารภาพ แต่เวลาต่อมา กลับเปลี่ยนเป็นปฏิเสธ จึงเดินทางมาสอบปากคำ พร้อมกับแจ้งถึงสิทธิต่างๆอีกครั้ง ซึ่งผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ พร้อมกับขอคิดดูอีกที โดยยอมรับแต่เพียงว่าอยู่ในขณะที่เกิดเหตุเท่านั้น แต่ส่วนนี้ ไม่ว่าผู้ต้องหาจะรับสารภาพหรือไม่ ก็ไม่สำคัญเท่ากับการหาพยานหลักฐานให้ครบถ้วนมัดแน่น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะส่งเสื้อผ้า เล็บของผู้ต้องหาไปตรวจสอบดีเอ็นเอให้แน่ชัด รวมถึงการสอบปากคำผู้ที่อาจจะเกี่ยวข้องเพิ่มเติมประมาณ 5-7 ราย ทั้งนี้ มูลเหตุจูงใจของการก่อเหตุในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเชื่อว่ามาจากการเรื่องงานที่มีการก่อสร้างมูลค่ากว่า 430 ล้านบาท โดยแบ่งหน้าที่งานออกเป็น 4 ฝ่าย เช่น ส่วนของประมูล ควบคุมงาน ซึ่งผู้ที่เสียชีวิตเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายงานจากเจ้าของโครงการโดยตรง รวมถึงเป็นผู้ตรวจสอบ ควบคุมการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามกำหนด แต่เนื่องจากการก่อสร้างดังกล่าวมีความล่าช้า จึงทำให้บางคนต้องการอะลุ่มอล่วย แต่ตกลงกันไม่ได้ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาลงพื้นที่ไปชี้จุดบริเวณที่เกิดเหตุประกอบสำนวนคดี โดยสำหรับบริเวณไซด์งานก่อสร้าง เป็นพื้นที่กว้าง ประมาณ 20 ไร่ ซึ่งจุดเกิดเหตุเป็นแคมป์คนงานที่ดัดแปลงมาจากตู้คอนเทนเนอร์ตู้แรกทางด้านขวานับจากทางเข้า ซึ่งเข้าใจว่าเป็นห้องทำงานของผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ พนักงานรักษาความปลอดภัยของไซด์งานไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนและบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปด้านใน อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลมีนบุรี ก่อนที่จะมีการดำเนินคดีต่อไป

ผู้สื่อข่าว:พนิตา สืบสมุทร