*EGATจัดประชุมวิชาการ แลกเปลี่ยนงานวิจัย-นวัตกรรมเพื่อความมั่นคงพลังงานไฟฟ้า*

การประชุมวิชาการ EGAT R&D Forum 2016 ภายใต้แนวคิด Innovation for Future Drive เพื่อเผยแพร่งานวิจัยที่ก่อให้เกิดความรู้ใหม่สู่ภาคสังคม และกระตุ้นให้เกิดการต่อยอดที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นายสุธน บุญประสงค์ รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการทำวิจัยโดยเชื่อว่าจะสามารถต่อยอดเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่ง ไม่ใช่เพียงการวิจัยด้านไฟฟ้าเท่านั้นทาง กฟผ. ยังให้ความสำคัญกับการวิจัยทุกรูปแบบที่จะนำไปสู่การทำให้ประโยชน์ต่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริการจัดการพลังงาน สิ่งแวดล้อมเกษตรผักปลอดสารพิษ โดยใช้งบประมาณร้อยละ 3 ต่อปี ของกำไรสุทธิ โดยการประชุมวิชาการที่เกิดขึ้นในวันนี้ เป็นเวทีการนำเสนอเทคโนโลยีที่ได้จากความรู้และการวิจัยของกฟผ. ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเผยแพร่ให้กับนักวิชาการอาจารย์และประชาชนต่อไป ทั้งนี้ยังเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนางานวิจัยที่มีคุณภาพเป็นประโยชน์ต่อสังคม

โดยจัดประชุมวิชาการในวันนี้ มี ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เป็นประธานเปิดการประชุม และกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ งานวิจัยที่นำไปสู่ความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศ ซึ่งพูดถึงความจำเป็นของพลังงานไฟฟ้า ที่มีส่วนสำคัญต่อการดำรงชีวิตประจำวันของมนุษย์โดยมองว่า สิ่งที่จะอยู่กับโลกตลอดไป คือไฟฟ้าและเทคโนโลยี ที่จะเติบโตพร้อมกับมีนวัตกรรมใหม่เกิดขึ้น ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของมนุษย์ แต่ทั้งนี้นวัตกรรมใหม่ๆที่เกิดขึ้น จะเป็นตัวทำให้เกิดความทันสมัยและสะดวกสบายที่สามารถตอบสนองความต้องการของมนุษย์

นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ งานวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย โดย ดร. สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ที่ได้พูดถึงนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคน ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ในอนาคตข้างหน้า คู่แข่งทางธุรกิจ ของบริษัทชั้นนำ จะไม่ใช่บริษัทด้วยกัน แต่จะเป็นเทคโนโลยีที่กำลังก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถลดต้นทุนได้ จึงตอบสนองความต้องการของมนุษย์เป็นอย่างดี

สำหรับประเทศไทย ได้มีการวางเป้าหมายอุตสาหกรรม 10 ประเภท ได้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อิเล็กทรอนิกส์อัจริยะ ท่องเที่ยวและคุณภาพ เกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ อาหารแปรรูป หุ่นยนต์ การบิน การแพทย์ครบวงจร เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมี ดิจิตอล ทั้งนี้การจะนำเทคโนโลยี เข้ามาได้ตามเป้าหมาย การวิจัยถือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ โดยการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทยที่เกิดขึ้นโดยภาครัฐ ยังคงประสบปัญหา การให้ความสำคัญ เนื่องจาก ประชาชนยังมองว่า ผลงานวิจัย ที่มีการคิดขึ้น ไม่สามารถใช้ให้เกิดผลได้จริง ซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหา คือการต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า ผลงานวิจัยสามารถใช้ประโยชน์ได้จริงโดยอาจมีการตั้งศูนย์วิจัยเฉพาะขึ้นมาทดแทนการทำวิจัยโดยผ่านสถาบันการศึกษา

สำหรับการจัดประชุมวิชาการปี  EGAT R&D Forum 2016 นอกจากจะมีการจัดการประชุมแล้ว ยังมีการจัดแสดงบูธทั้งสิ้น 24 บูธ อาทิ บูธรถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการเคลื่อนที่ แทนน้ำมัน ซึ่งสามารถใช้งานได้จริงและเหมาะกับการใช้งานในเมืองเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม และลดมลพิษได้อีกด้วย