กรณีศิษย์วัดพระธรรมกาย ระบุว่า พระพ่อธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายจะไม่มอบตัว โดยอ้างว่าบ้านเมืองยังไม่เป็นประชาธิปไตย พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกเหนือความคาดหมายว่า ศิษย์วัดพระธรรมกายใช้เหตุผลเช่นนี้ในการปฏิเสธที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เจ้าหน้าที่บ้านเมืองได้ให้เกียรติและปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ไม่เคยใช้อำนาจพิเศษใดๆ พลตรีสรรเสริญ กล่าวว่า แม้ว่าบ้านเมืองขณะนี้อาจไม่ใช่ประชาธิปไตยในรูปแบบที่คุ้นเคย แต่ในทางปฏิบัติถือว่าประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยไม่แพ้ประเทศเสรีนิยมใดๆ ด้วยการทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ และบังคับใช้อย่างเท่าเทียม ดังนั้น ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน คนทำผิดต้องได้รับโทษอย่างเท่าเทียมไม่มีการละเว้น นักการเมืองโกงกินซึ่งแทบจะไม่เคยถูกจับมาก่อน ก็ถูกลงโทษทั้งจำทั้งปรับในยุคนี้ การที่จะมีใครพยายามทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย หรือใช้อภิสิทธิ์เครือข่ายพวกพ้องปกปิดความผิดตัวเอง ถึงจะเรียกว่าไม่เป็นประชาธิปไตย
พลตรีสรรเสริญ แสดงความเป็นห่วงว่า วัดพระธรรมกายก็มักจะถูกสังคมตั้งข้อสงสัยว่าอิงการเมืองหรือฝักใฝ่การเมืองขั้วใดหรือไม่ ซึ่งวัดก็ปฏิเสธมาโดยตลอดว่า วัดไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่การออกมาอ้างเหตุผลดังกล่าว น่าเป็นกังวลว่าจะยิ่งทำให้ประชาชนคิดไปได้ว่า วัดพระธรรมกายมิได้เป็นอย่างเช่นที่พยายามบอกสังคมมาโดยตลอด ซึ่งหากศิษยานุศิษย์กลุ่มนี้มั่นใจในความบริสุทธิ์ของพระธัมมชโย ก็ไม่ควรขัดขวางการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม รวมทั้งควรเห็นแก่วัดพระธรรมกาย และศิษย์วัดคนอื่นๆที่อาจจะต้องพลอยมัวหมองไปด้วย และไม่ควรทำให้ศิษย์วัดคนอื่นๆต้องมาเดือดร้อน ขวางเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่พยายามทำหน้าที่รักษากฎหมายตามกระบวนการยุติธรรมโดยชอบธรรม พลตรีสรรเสริญ กล่าวว่า โดยส่วนตัวมองไม่เห็นเหตุผลว่าจะรั้งรออะไรให้ชื่อเสียงวัด และพระธัมมชโยต้องมัวหมอง เพราะยิ่งปล่อยไว้ให้เรื้อรัง ก็อาจยิ่งทำให้ประชาชนหรือแม้แต่ผู้ที่ศรัทธาวัดพระธรรมกายตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมจึงมีความพยายามยืดเยื้อเพื่อซื้อเวลาถึงเพียงนี้ จึงอยากขอความร่วมมือศิษยานุศิษย์ผู้ใกล้ชิด อย่าได้ขัดขวางการมอบตัว เพื่อให้พระธัมมชโยได้ชี้แจงความบริสุทธิ์ ซึ่งถือเป็นการรักษาความถูกต้อง และรักษาความสงบของบ้านเมือง เชื่อว่าจะเป็นกุศลแรงยิ่งกว่าสร้างวัดสร้างเจดีย์มากนัก