ปัญหาการบริหารจัดการขยะของกรุงเทพมหานคร(กทม.) พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไปติดตามความคืบหน้าสถานีขนถ่ายขยะมูลฝอยย่อย ที่เขตจตุจักร ครอบคลุมพื้นที่บริการ 3 เขต ได้แก่ เขตจตุจักร เขตบางซื่อ และเขตดินแดง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จากการตรวจสอบโครงการสถานีขนถ่ายมูลฝอยย่อย ขนาด 700 ตันต่อวัน ของ กทม. ซึ่งสถานีขนถ่ายขยะแห่งนี้ จะสามารถรับขยะมูลฝอยจากบ้านเรือนประชาชนใน 3 เขต มาพักไว้ โดยมีตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 20 ตู้ ในการรับขยะมูลฝอยได้16-20 ตันต่อวัน จากนั้นจะใช้รถบรรทุกจำนวน 9 คันในการขนส่งขยะจากจุดนี้ไปยังโรงงานกำจัดขยะ โดยกทม. ถือเป็นที่แรกที่ใช้วิธีการกำจัดขยะโดยมีสถานีขนส่งขยะ ซึ่งหากมีการเปิดใช้งานจริงประมาณปีหน้า อาจจะพิจารณาดูระบบการทำงานอีกครั้ง และอาจมีการนำร่องโครงการนี้ไปยังจังหวัดใหญ่ๆ แต่ต้องพิจารณาเรื่องสถานที่และความคุ้มค่าด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า หากมีจุดกำจัดขยะที่สามารถบีบอัดขยะได้ ดังเช่นโครงการนี้ จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องขยะตกค้างและการขนย้าย รวมถึงช่วยประหยัดงบประมาณในการกำจัดขยะได้ ทั้งนี้ สถานีขนถ่ายขยะมูลฝอยแห่งนี้ เป็นระบบการขนถ่ายขยะมูลฝอยที่มีความสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่ในขั้นตอนการบีบอัด ขนถ่าย และนำไปกำจัดยังโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนกรณีกระแสข่าวด้านลบเรื่องการทำงานของกทม. พลเอกอนุพงษ์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย ได้กำกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยกฎหมาย โดยไม่ว่าจะดำเนินงานใดๆ ต้องมีแผนงานโครงการ และดำเนินงานตามแผนงานที่วางไว้ จึงถือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่หากมีปัญหาเกิดขึ้น ก็จำเป็นต้องดำเนินการตรวจสอบตามกฎหมาย อีกทั้งยังขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในระบบการทำงานของกทม.
นอกจากนี้ พลเอกอนุพงษ์ และ หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ ได้ไปเยี่ยมชมโรงกำจัดขยะผลิตไฟฟ้าเพื่อสิ่งแวดล้อม ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยที่เขตหนองแขม ซึ่งถือเป็นโรงกำจัดขยะผลิตไฟฟ้าแห่งแรกของกทม. ด้วย ซึ่งโรงกำจัดขยะแห่งนี้ใช้แนวคิดเตาเผาขยะที่ใช้ระบบเทคโนโลยีชั้นสูง จะใช้เวลาในการเผาประมาณ 1- 2 ชั่วโมง ซึ่งจะนำเอาพลังงานความร้อนมาผลิตกระแสไฟฟ้า ส่วนน้ำที่มากับขยะ จะใช้ตะแกรงกรอง เพื่อนำไปเข้าระบบบำบัดน้ำเสียต่อไป ซึ่งการกำจัดขยะผลิตไฟฟ้า มีระบบการควบคุมด้านสิ่งแวดล้อม เป็นไปตามมาตรฐานระดับประเทศและระดับสากล จึงทำให้การจัดการขยะมูลฝอยดำเนินไปด้วยความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาแปรรูปเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้ประโยชน์ และในอนาคตข้างหน้า ยังมีแผนที่จะนำขี้เถ้าที่ได้จากการเผาไปแปรรูปเป็นอิฐบล็อกเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไปด้วย
ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม