*สนช.รับหลักการร่างพ.รบ.หลักทรัพย์ฯ-นัดเปิดคดีถอดถอนอดีตรมว.กลาโหม7ก.ค.*

การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม มีการพิจารณาแก้ไขร่างพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ในวาระที่ 1  โดยนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึง การเสนอหลักการของพ.ร.บ.ฉบับนี้ว่าเนื่องจากร่างพ.ร.บ.ฉบับก่อนมีข้อจำกัดและบทบัญญัติไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน จึงอาจทำให้การดำเนินการไม่มีประสิทธิภาพ และทำให้ผู้กระทำผิดไม่เกรงกลัวกฎหมายจนส่งผลกระทบในการซื้อขายหลักทรัพย์ของไทย  ดังนั้น จึงได้เสนอแก้ไขเพิ่มเติมให้บุคคลอื่นที่มิใช่บริษัทที่ออกหลักทรัพย์ ยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่บางประเภทได้  กำหนดให้บริษัทที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่มีมาตรฐานในการคุ้มครองผู้ลงทุน ในทำนองเดียวกันคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) อาจได้รับการยกเว้นจากหลักเกณฑ์และวิธีการตามพระราชบัญญัติฉบับนี้ นอกจากนี้กำหนดให้อำนาจของคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ในการออกประกาศผ่อนผันหรือยกเว้นการจัดทำหรือส่งข้อมูลของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์บางกรณี รวมถึงให้มีการเปิดเผยรายงานการถือและการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

ขณะเดียวกัน ได้แก้ไขบทบัญญัติเกี่ยวกับการป้องกันการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ และกำหนดโทษสำหรับผู้ขัดขวางหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงาน และเพิ่มบทลงโทษทางแพ่งให้มีโทษหนักกว่าเดิมอีกด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจและรองรับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ซึ่งสมาชิกสนช. ได้อภิปราย โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยเพราะจะทำให้มีการพัฒนาเศรษฐกิจที่ดีขึ้น แต่แสดงความเป็นห่วงว่า อาจยังยังมีบทลงโทษที่อ่อนไป เมื่อเปรียบเทียบกับต่างประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ที่มีบทลงโทษจำคุกและปรับอย่างเข้มข้น  จึงเกรงว่าอาจจะไม่มีผลในการยับยั้งการกระทำผิด พร้อมเสนอให้มีการอายัดทรัพย์ 

ที่ประชุมได้มีมติรับหลักการในวาระที่ 1 ด้วยคะแนนเสียง 165 เสียง ไม่เห็นด้วย 2 งดออกเสียง 2 โดยเสนอแปรญัตติ 15 วัน และกำหนดระยะเวลาดำเนินการของคณะกรรมาธิการ 60 วัน

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ที่ประชุมสนช. ได้รับทราบรายงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) กรณีมีมติชี้มูลความผิด พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต สมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการทหารระดับชั้นนายพล ประจำปี 2555 โดยมีการเสนอชื่อพล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม โดยไม่ถูกต้องตามข้อบังคับและกฎหมาย จึงส่งเรื่องให้สนช. พิจารณาถอดถอนพล.อ.อ.สุกำพล ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งประธานที่ประชุมได้ นัดแถลงเปิดคดีในวันที่ 7 ก.ค. 2559

ผู้สื่อข่าว: ปิยะธิดา เพชรดี