*ค้นนาตารีอาบอบนวด คาดโกลักยังอยู่ไทย/ถอดยศเสธ.หิ ทำลายบาร์เบียร์/ล่าคนร้ายข่มขืนญ.ชรา*

16 มิถุนายน 2559, 08:54น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.



+++วันนี้ ต้องตามต่อ หลังจากกรมการปกครอง สนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวนกว่า 100 นาย เปิด "ปฏิบัติการสังขร" เข้าตรวจสอบนาตารี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ อาบอบนวด ย่านถนนรัชดาภิเษก กระทั่งสามารถคุมตัวหญิงสาวค้าบริการได้ 121 คน โดยพบว่ามีหญิงสาวกว่า 77 คนเป็นแรงงานต่างด้าว ต่อมาภายหลังขยายผลพบว่านายประเสริฐ หรือโกลัก สุขขี อายุ 58 ปี เจ้าของอาบอบนวดนาตารี และนายสมหมาย หรือก้อง พัดสิงห์ อายุ 45 ปี ผู้จัดการและเจ้าของใบอนุญาต จนนำไปสู่การออกหมายจับนั้น จากแนวทางการสืบสวนเชื่อว่านายประเสริฐและนายสมหมายยังอยู่ในประเทศไทย เนื่องจากว่าได้ตรวจสอบไปยังช่องทางต่างๆ ที่เป็นช่องทางการเข้า-ออกระหว่างประเทศ ยังไม่พบผู้ต้องหาทั้งสองคน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งหมายจับประสานไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองต่างๆ หากพบสามารถจับกุมได้ทันที ด้านนายกฤติน จิกิตศิลปิน อายุ 44 ปี บก.แม็กซิม ผจก.แฟชั่น นำเหล่าบรรดาสาวๆ ในโครงการแม็กซิมแองเจิ้ล ออน ดูตี้ (Maxim angel on duty) จำนวน 7 คนเข้าแจ้งความกับตำรวจว่าที่ได้รับความเสียหายจากการที่มีคนนำภาพไปเผยแพร่ทางแอพพ์ไลน์ ระบุว่าทำงานขายตัวและทำงานอยู่ที่นาตารีด้วย



+++การตรวจค้นสถานบริการ นาตารี อาบอบนวด  ย่านรัชดาภิเษก หลังจากศาลอาญา อนุมัติออกหมายจับ นายประเสริฐ หรือโกลัก สุขขี อายุ 58 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 1151/2559 ลงวันที่ 13 มิ.ย. และนายสมหมาย หรือก้อง พัดสิงห์ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 1152/2559 ฐานร่วมกันแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยการค้าประเวณี ร่วมกันเป็นธุระจัดหาชักพาบุคคลเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และร่วมกันเป็นผู้ดูแลสถานค้าประเวณี ให้สถานที่พักพิงต่างด้าว ร่วมกันตั้งสถานบริการโดยไม่รับอนุญาตพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จะเร่งขยายผลตรวจสอบไปยังผู้เกี่ยวข้องรายอื่นๆ หากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายก็จะดำเนินการขออนุมัติหมายจับต่อไป คณะตรวจสอบข้อเท็จจริงนำโดย พล.ต.ท.เติมพงษ์ สิทธิประเสริฐ จเรตำรวจ (สบ.8) กำลังเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้ามาสอบสวนข้อเท็จจริง เชื่อว่า ภายในสัปดาห์นี้น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น  ยังไม่พบว่าผู้ที่ถูกออกหมายจับประสานขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่หากความผิดเป็นความผิดมูลฐานที่สามารถนำกฎหมายปราบปรามการฟอกเงินมาใช้ได้ เจ้าหน้าที่ก็จะนำมาใช้ร่วมด้วยเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหา เพื่อหาหลักฐานที่อาจเชื่อมโยงไปถึงการกระทำผิดอื่นๆ หรือผู้ใดที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ามนุษย์เพิ่มเติมอีกหรือไม่



+++การหารือร่วมระหว่างนายออมสิน ชีวะพฤกษ์รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมกับผู้บริหารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพหรือ ขสมก.เพื่อหาแนวทางในการจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้าจำนวน 20 คันหลังจากนายกรัฐมนตรีขีดเส้นให้เร่งดำเนินการเพื่อให้มีรถเมล์ไฟฟ้าจำนวน 20 คันมาวิ่งให้บริการในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2559  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมได้ให้แนวทางในการดำเนินการ โดยมีความเป็นไปได้ว่าในการจัดซื้อเพื่อให้ทันต่อกำหนดเวลานั้น จะมีการจัดซื้อในวิธีพิเศษ และเป็นการจัดซื้อโดยการนำเข้ารถเมล์จากต่างประเทศทั้งคันรวมถึงจะมีการเสนอเรื่องไปยังกระทรวงการคลังเพื่อให้ยกเว้นภาษีการนำเข้ารถในจำนวนดังกล่าวด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ต้นทุนในการจัดซื้อลดลงได้มาก โดยฝ่ายบริหารขสมก. จะเสนอแนวทางการจัดซื้อรูปแบบนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ขสมก. ในการประชุมครั้งต่อไป



+++ ธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง เช่น ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารทหารไทย และ ธนาคารธนชาต พร้อมเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนผูกบัญชีล่วงหน้า ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2559 สำหรับการให้บริการ “พร้อมเพย์” ก่อนที่จะมีการเปิดให้ลงทะเบียนการใช้งาน “พร้อมเพย์” พร้อมกันทุกธนาคารตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคมนี้ การให้บริการ”พร้อมเพย์” คือบริการโอนเงินและรับเงินรูปแบบใหม่ โอนเงินโดยไม่ต้องถามเลขบัญชีธนาคาร โดยประชาชนสามารถลงทะเบียนโดยใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชนและหรือเบอร์โทรศัพท์มือถือ ผูกเข้ากับเลขบัญชีเงินฝากของธนาคารได้ โดยลงทะเบียนผ่าน 4 ช่องทางคือสาขาธนาคารพาณิชย์ ตู้เอทีเอ็ม โมบายแบงก์กิ้งและอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง“พร้อมเพย์” จะเปิดให้บริการโอนเงินรายย่อยอย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบพร้อมกันทั่วทุกธนาคารตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป



+++ความคืบหน้าในการสรุปสำนวนคดีที่กลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้าย นายสมเกียรติ ศรีจันทร์​ ชายพิการขา ซึ่งเป็นพ่อค้าขายขนมปัง ย่านโชคชัย 4 เสียชีวิต พ.ต.ท.อลงกรณ์ ศิริสงคราม รองผกก.(สอบสวน) สน.โชคชัย กล่าวว่า หลังได้รับผลการพิสูจน์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มาประกอบสำนวนแล้ว พนักงานสอบสวนเตรียมสรุปสำนวนคดีพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาให้กับพนักงานอัยการภายในสัปดาห์หน้า ยืนยันว่า การทำคดีของคณะพนักงานสอบสวน เป็นไปตามพยานหลักฐาน และกระบวนการของกฎหมายทุกขั้นตอน ซึ่งแรงกดดันจากสื่อสังคมออนไลน์ ไม่ส่งผลต่อการทำคดี  กรณีที่ญาติของผู้เสียชีวิต ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมาธิการสังคม กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เพื่อให้โอนสำนวนคดีให้ดีเอสไอ พ.ต.ท.อลงกรณ์ ได้ชี้แจงรายละเอียดต่างๆ ต่อคณะกรรมาธิการฯ แล้ว ส่วนจะมีการโอนสำนวนคดีให้ดีเอสไอหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมาธิการจะพิจารณา  



+++วันนี้ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง  จะเดินทางแจ้งความหมิ่นประมาทที่สน.ทุ่งสอง นายวรวุฒิ บุตรมาตรได้ปราศรัยระบุว่า “นายสมชัย ไม่เคยเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มาก่อน แต่ตนไม่เข้าใจว่านายสมชัย ไปกินอะไรมา มีอำนาจเป็น กกต. พยายามเลีย xx ทหารขนาดนี้”  อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นายวรวุฒิ เป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นสมาชิกของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ที่ต่อต้านรัฐบาลทหารด้วย ยืนยันว่า เป็นการใช้สิทธิในฐานะประชาชนเพื่อฟ้องหมิ่นประมาท อย่าหาว่าผู้ใหญ่รังแกเด็ก ซึ่งทราบว่าบุคคลดังกล่าวเรียนด้านกฎหมายมา ควรจะรู้ด้วยว่าสิทธิเสรีที่แสดงออกมาต้องมีขอบเขต ตนพูดเสมอว่าจะพูดว่าจะรับหรือไม่รับสามารถทำได้ แต่ไม่ควรละเมิดสิทธิคนอื่น กรณีนี้เป็นการใช้คำพูดหยาบคาย พาดพิงบุคคลอื่นถือเป็นคดีหมิ่นประมาทที่ต้องฟ้องร้อง เพื่อให้เป็นตัวอย่างเพื่อให้ไม่เกิดการกระทำในลักษณะนี้อีก ยืนยันว่า การใช้เสรีภาพในการแสดงความเห็นทุกคนสามารถทำได้ แต่ต้องมีเหตุผลและเป็นสุภาพชน



+++เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศทหารและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอด พันโท หิมาลัย ผิวพรรณ ออกจากยศทหาร และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์ มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก และจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย ที่บุคคลดังกล่าวได้รับพระราชทานอีกด้วยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ   สำหรับ พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ เป็นผู้ต้องหาในคดีเข้าบุกรุกทำให้เสียทรัพย์ กักขังหน่วงเหนี่ยว กรณีรื้อบาร์เบียร์ย่านสุขุมวิทปี 2546 โดยร่วมกับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย และจำเลยอีกหลายคน ต่อมาศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้ พ.ท.หิมาลัย ต้องโทษจำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา โดยศาลให้เหตุผลว่าเพราะการกระทำของ พ.ท.หิมาลัยเป็นการเข้าไปครอบครองพื้นที่โดยอุกอาจ ไม่ยำเกรงกฎหมาย ไม่ได้ใช้กฎหมายที่มีอยู่ดำเนินการให้ถูกต้อง



+++พลตำรวจเอกปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา สบ.10 เปิดเผยภายหลังเรียกชุดสืบสวนและคณะทำงานในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อติดตามความคืบหน้าการติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุข่มขืนหญิงชราในพื้นที่ของจังหวัดนครปฐม, สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม ต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปี 2553 กระทั่งล่าสุดเมื่อเดือนมกราคม 2558 รวม 10 คดี มีหญิงชราเสียชีวิต 2 ศพ และจากการตรวจสอบดีเอ็นเอของคนร้ายที่เก็บได้ พบว่าผู้ก่อเหตุทั้ง 10 คดี เป็นบุคคลคนเดียวกัน โดยมีการออกหมายจับไปแล้วก่อนหน้านี้ เป็นชายผมหยักศกยาวประบ่า อายุประมาณ 35 ปี น่าจะเป็นคนงานในพื้นที่เกิดเหตุนั้น คดีนี้เกิดขึ้นมาหลายปีและมีการประเมินการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนมาตลอด จึงอยากให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแส ทั้งนี้ยังมั่นใจว่าคนร้ายยังชีวิตอยู่ เพราะจากการนำลายนิ้วมือแฝงจากที่เกิดเหตุ ไปตรวจสอบกับทะเบียนประวัติยังไม่พบว่าบุคคลดังกล่าวเสียชีวิต



+++จากกรณีนายวิกรม กรมดิษฐ์ นักธุรกิจ ชื่อดัง โพสต์ภาพคู่กับนกเงือก และอ้างว่าน้องชายไปพบอยู่บริเวณข้างไร่ติดกับป่าเขาใหญ่ ในสภาพบาดเจ็บ เลยนำมาดูแล นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) ที่ 7 (นครราชสีมา) เข้าไปตรวจสอบที่บริเวณบ้านพักส่วนตัวของนายวิกรมที่เขาใหญ่ แต่ไม่เห็นนกเงือกตัวดังกล่าว ขณะเดียวกัน ก็สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่สำนักงานของนายวิกรม ย่านถนนเพชรบุรี ตัดใหม่ กทม. ด้วย ถ้าอยากให้เรื่องนี้จบเร็วๆ นายวิกรมควรออกมาชี้แจงต่อสาธารณชน เพื่อให้ทุกอย่างกระจ่างชัดเจน ไม่ต้องให้สังคมมาตั้งคำถามอีก     เย็นวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ และตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) นำหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นอาคารกรมดิษฐ์ ตั้งอยู่เลขที่ 2126 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. เป็นอาคารสูง 6 ชั้น ลักษณะเป็นโฮมออฟฟิศ ชั้นบนเป็นบ้าน ทรงไทยขนาดใหญ่ของนายวิกรม และพี่น้องในตระกูล มีสวนป่า ปลูกต้นไม้ปกคลุมทั่วบริเวณ    เจ้าหน้าที่ใช้เวลาตรวจค้นกว่า 4 ชั่วโมง โดยนำภาพถ่ายที่นายวิกรมโพสต์ในเฟซบุ๊ก มาเปรียบเทียบกับสถานที่จริง พบว่าเป็นจุดเดียวกัน แต่ไม่พบนกเงือกตัวดังกล่าวแต่อย่างใด จากการสอบถามนายวิฑูรย์ กรมดิษฐ์ น้องชายนายวิกรม ระบุว่านายวิกรม ไม่อยู่ เดินทางไปทำธุระที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี แต่โดยปกติแล้วนายวิกรมจะพักอาศัยอยู่ที่นี่ โดยยอมรับว่าภาพที่ปรากฏเป็นสถานที่นี้จริง และได้นำชี้บริเวณสถานที่ดังกล่าวทั้ง 3 จุด พร้อมประสานให้นายวิกรมเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปทส. เพื่อให้เข้ามูลเกี่ยวกับนกที่ปรากฏในภาพ

ข่าวทั้งหมด

X