*รัฐบาลกำชับตำรวจเฝ้าระวังปัญหานักเรียนตีกัน พนันฟุตบอล แข่งรถซิ่ง*

หลังการประชุมผู้บริหารตำรวจเมื่อวานนี้ ที่มีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาเป็นประธาน พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้พลเอกประวิตร ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ป้องกันเหตุนักเรียนตีกัน โดยจะต้องมีมาตรการป้องกันกลุ่มเสี่ยง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องลงไปพูดคุย ทำความเข้าใจกับสถานศึกษา และดูว่ากลุ่มเสี่ยงดังกล่าวมีความต้องการอะไร ถึงได้ทะเลาะวิวาทกัน และจะต้องทำความเข้าใจกับศิษย์เก่า ที่เข้ามาปลุกปั่นชักจูง ให้เด็กนักเรียน ทะเลาะวิวาทกัน ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เน้นย้ำการปราบปรามอาชญากรรมเกี่ยวกับอบายมุข โดยเฉพาะการค้าประเวณี และการพนันทุกรูปแบบ รวมทั้งการปราบปรามการแข่งรถบนถนนสาธารณะ โดยเจ้าหน้าที่ตรวจจะต้องทำงานในเชิงรุก และขอทำความเข้าใจกับประชาชนว่า หากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมผู้แข่งรถได้ จะต้องมีความผิดตามพ.ร.บ. การจราจรทางบก มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เช่นเดียวกับผู้สนับสนุน อยู่เบื้องหลังในการแข่งรถ ส่วนผู้ปกครองของเยาวชน อายุต่ำกว่า 18 ปี ที่แข่งรถ จะต้องมีความผิดตามพ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ฐานไม่ดูแลบุตรหลานให้ดี นอกจากนี้ยังต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังกับผู้ที่เมาแล้วขับ และฝ่าไฟแดง รวมทั้งการขับขี่ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุด้วย

ส่วนความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุความรุนแรงที่ศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนจังหวัดสุราษฎ์ธานีเมื่อวานนี้ ได้ยอดสรุปผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 85 คน เสียชีวิต 1 คน โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการปูพรมตรวจค้นอย่างละเอียดในที่พักบริเวณศูนย์ฝึกฯ แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ พบเพียงอาวุธที่ใช้ก่อเหตุเท่านั้น และขณะนี้ได้มีการสอบปากคผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 20 ปาก โดยยังคงไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลใด