*ดีเอสไอ หารือตร.ใช้แผนกบิล59 คุมตัวพระธัมมชโย ศุกร์นี้/จี้จุดประชามติ7ส.ค.จุดความขัดแย้งรอบใหม่/สอบวิกรมเลี้ยงนกเงือกน้ำตาล*

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.

+++ปิดขั้นตอนทางสงฆ์ ดีเอสไอ ลุยต่อ นัด ดีเดย์ศุกร์นี้  คุมตัว พระธัมมชโย หลังดีเอสไอ-ตร. หารือ เตรียมกำลังตำรวจ 4 กองร้อยตรึงวัดพระธรรมกาย พร้อมเตรียมแผนสำรอง หากมวลชนต่อต้าน แจ้งข้อหาผ่านทนายความของวัดแทน  ด้านพระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผอ.สำนักสื่อสารองค์กร แถลงชี้แจงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษส่งสำนวนคดีพิเศษที่ 27/2559 เกี่ยวกับพระธัมมชโยไปยังอัยการ เมื่อวันจันทร์ที่ 13 มิ.ย. โดยได้ชี้แจงโดยสรุปว่า เนื้อหาในคดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้สอบสวนแล้วในคดีพิเศษที่ 766/2556 และเสนอสำนวนการสอบสวนต่อพนักงานอัยการแล้ว จึงไม่อาจแยกเรื่องออกมาเป็นคดีใหม่ที่ 27/2559 การ กระทำดังกล่าวจึงอาจเป็นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบและจะขอความเป็นธรรมจากพนักงานอัยการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

+++ในช่วงเย็น พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมประชุมตามแผนกบิล 59 ในการสนธิกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาคดีพิเศษ พระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย โดยใช้เวลาประชุม 1 ชั่วโมง

+++พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า เรื่องที่ประชุมส่วนใหญ่ คือการป้องกันเหตุร้ายในกรณีที่ ดีเอสไอจะเข้าไปในวัดพระธรรมกาย เพราะว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สาธารณะและมีคนอยู่จำนวนมาก ส่วนการสืบสวนจับกุมก็ต้องเป็นหน้าที่ของดีเอสไอ ถ้าไม่มีเหตุรุนแรงอะไรตำรวจก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าไปมีส่วนร่วม เท่าที่ทราบมาทางวัดกับลูกศิษย์ก็ให้ความร่วมมือดี ส่วนเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปดูแลความเรียบร้อยก็จะเป็นในส่วนของตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมมือกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

+++มีรายงานข่าวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษเตรียมเข้าจับกุมพระธัมมชโยภายในวันศุกร์นี้ โดยวันพฤหัสบดีพนักงานสอบสวนจะขอหมายค้น ก่อนเดินทางไปวัดธรรมกายในช่วงเช้า ใช้กำลังตำรวจ 4 กองร้อย ปิดประตูที่ 7 ไม่ให้บุคคลเข้าออก ใช้การเจรจาเป็นหลัก แต่หากการเจรจาไม่เป็นผลก็จะแจ้งข้อหาพระธัมมชโยผ่านทนายความ โดยไม่ใช้กำลังเข้าปะทะโดยเด็ดขาด

++++การออกเสียงประชามติ  นายวันชัย สอนศิริ โฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) เปิดเผยว่า เหลือเวลาอีกประมาณ 1 เดือนครึ่ง จะถึงวันออกเสียงประชามติร่าง รัฐธรรมนูญ สถานการณ์ทางการเมืองก็จะเข้มงวดใกล้เข้ามาทุกที มีพวกที่จะกวนน้ำให้ขุ่น หาเรื่องสร้างสถานการณ์ และก่อความวุ่นวายเพื่อให้เป็นประเด็นทางการเมือง จึงเป็นเรื่องที่จะต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

+++ด้านพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) กล่าวว่า สถานการณ์มีแนวโน้มแล้วหรือว่า จะมีการโกงประชามติ ทางนปช.จึงตั้งศูนย์ขึ้นมาปราบโกง แล้วทำไมจึงกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาเพราะโดยข้อเท็จจริงต้องยอมรับว่านปช.คือมวลชนของพรรคเพื่อไทย โดยนายทุนที่อยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อไทยและนปช. คือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อีกทั้งการทำงานของพรรคเพื่อไทยและ นปช.จะสอดคล้องกันโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ยังมั่นใจว่าทุกอย่างยังเดินตามโรดแมปของคสช. อย่างมากที่สุด ถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ ก็ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยอาจไม่ต้องมีการลงประชามติอีก ซึ่งอาจใช้เวลาเพียง 2 เดือน ดังนั้นแม้ร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่านการทำประชามติ การเลือกตั้งเกิดขึ้นแน่นอนภายในปี 2560 แต่ปัจจัยที่จะทำให้เลื่อนหรือไม่นั้น คือนปช.เพราะถ้าเขาทำให้บ้านเมืองมีความวุ่นวาย คสช.ก็คงต้องยึดอำนาจต่อไปเรื่อยๆ

+++ขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวเรียกร้อง ไปยังคสช. ให้เลิกการคุกคามและข่มขู่ว่าจะดำเนินการทางกฎหมายกับศูนย์ปราบโกง หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช.เคยระบุว่าการดำเนินการของศูนย์ปราบโกงดังกล่าวสามารถทำได้ แต่อย่าทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนี้การดำเนินงานของศูนย์ปราบโกงไม่มีลักษณะใดที่เข้าข่ายการกระทำผิดตามกฎหมาย หรือเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง

+++ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการลงพื้นที่ชี้แจงประชามติของกกต.และตัวแทนจากแม่น้ำ 3 สาย ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า แม้จะมีอดีต สส.ของพรรคเข้าร่วมแต่ไม่ได้รายงานบรรยากาศและรายละเอียดเนื้อหามาให้ตนรับทราบ เห็นว่าการเปิดเวทีชี้แจงเกี่ยวกับประชามติจะต้องเปิดโอกาสให้ทุกกลุ่มได้แสดงความเห็นอย่างเต็มที่เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูล ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจในการไปลงประชามติ ไม่ใช่เป็นการพูดฝ่ายเดียวไม่เช่นนั้นการทำประชามติที่ใช้งบประมาณจำนวนมากจะเป็นปัญหาสูญเปล่า ไม่เป็นที่ยอมรับในผลที่จะออกมา

+++นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต กล่าวว่า ตนเห็นว่า ภาพความขัดแย้งก่อนวันลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังจะมาถึง ไม่ว่าจะเป็น ข้อกังขาต่อบทบาทกกต. คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ การตั้งศูนย์ปราบโกงของนปช. และท่าทีของพรรคการเมืองและกลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ ในขณะนี้ ตอกย้ำชัดเจนว่าประชามติ 7 สิงหาคม จะกลายเป็นความขัดแย้งใหม่

+++ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรม เสนอแต่งตั้งนายปฏิคม วงษ์สุวรรณ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ส่งผล ในโลกโซเชียลมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ตั้งคำถามนายปฏิคมเป็น ใครมาจากไหน และมีนามสกุลเดียว กับพล.อ.ประวิตร พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เลยได้รับความไว้างใจได้ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์   นายปฏิคม วงษ์สุวรรณ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว หลังจากนี้ก็จะคงต้องทำงานในช่วงเวลาที่เหลืออีก 3 เดือน เพราะตนจะเกษียณอายุราชการช่วงเดือนกันยายน 2559 อย่างไรก็ตามมีอดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์หลายคนพร้อมจะเข้ามาช่วยตนขับเคลื่อนงานในช่วงเวลา 3 เดือนที่รับหน้าที่ ยืนยันว่าถึงแม้เวลาที่จะอยู่ในตำแหน่งอาจจะน้อย แค่ 3 เดือน แต่ทุกภารกิจที่จะทำเป็นงานที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เป็นรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ตนจะใช้ประสบการณ์ ที่เคยเป็นผู้บัญชาการเรือนจำหลายแห่ง มาเป็นแนวทางนโยบายบริหารจัดงานของกรมราทัณฑ์ให้ดีขึ้น แต่สิ่งสำคัญผมอยากให้มองการทำงานที่ผ่านมาของผมว่า เคยทำอะไรมากบ้างและมีประวัติเสื่อมเสีย หรือถูกตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง เรื่องใดหรือไม่ได้ นอกจากนี้กระบวนการสรรหาตั้งแต่เป็นรองอธิบดี จนกระทั่งตำแหน่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และผลงานที่ผ่านมาทำอะไรไปบ้าง กระบวนการสรรหามีขั้นมีตอนทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ไม่ได้มีอะไรเป็นความลับอะไรอย่ามองแค่ว่าผมนามสกุลวงษ์สุวรรณ

+++หลังนายวิกรม กรมดิษฐ์ นักธุรกิจชื่อดัง โพสต์ภาพตัวเองคู่กับนกเงือก และเผยแพร่ผ่านโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก ปรากฏว่าผู้ที่เห็นภาพ และกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่าต่างตั้งคำถามว่า นายวิกรมครอบครองนกเงือกได้อย่างไร เพราะเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ห้ามเลี้ยงและครอบครอง ต่อมานายวิกรมโพสต์ชี้แจงผ่านเซฟบุ๊กว่า เป็นนกที่น้องชายช่วยเลี้ยงดู เนื่องจากบ้านน้องชายอยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีวันหนึ่งคนงานพบนกตัวนี้ที่ข้างไร่ ไม่สามารถบินได้ ไม่ทราบว่ามาจากไหน คิดว่าคงเป็นนกของใครสักคนหนึ่งที่มีบ้านอยู่ในแถบนั้น น้องสงสารเลยเอามาเลี้ยง เพราะหากปล่อยไปก็จะถูก สัตว์ป่า หรือคนฆ่าตาย จนทุกวันนี้มันไม่ยอมไปไหนเลย นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่าสั่งการให้สำนักสัตว์ป่า และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 เข้าไปตรวจสอบแล้ว โดยจะดูว่าเป็นนกเงือกชนิดใด มีองค์ประกอบอะไรบ้าง และมีเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่หรือไม่ กรณี นายวิกรมชี้แจงว่าคนงานเก็บมารักษา เพราะนกเงือกได้รับบาดเจ็บ แต่เหตุผลนี้ไม่น่าฟังขึ้น เพราะถ้าเป็นนกเงือกป่าจริง คงไม่เกาะนิ่ง ดูเชื่องเหมือนนกบ้านขนาดนั้น แต่จะเปิดโอกาสให้นายวิกรมแสดงหลักฐานชี้แจงก่อน สำหรับนกเงือกถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพ.ร.บ. คุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 บัญญัติไว้ว่าห้ามครอบครองเป็นเจ้าของ และไม่ใช่สัตว์ที่สามารถเพาะเลี้ยงได้ด้วย

++++ด้าน นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ รองประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร และกรรมการมูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก กล่าวว่า นกเงือกพันธุ์ที่นายวิกรมครอบครอง เป็นนกเงือกสีน้ำตาล ไม่มีทางถูกพบได้ในพื้นที่เขาใหญ่อย่างแน่นอน นกเงือกสีน้ำตาลมีถิ่นอาศัยอยู่บริเวณป่าตะวันตก เช่น ห้วยขาแข้ง แก่งกระจาน อยากให้กรมอุทยานฯ ดำเนินคดีทางกฎหมายกับนายวิกรม เพราะนายวิกรมเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง และเป็นแบบอย่างของใครหลายคน การที่โพสต์ภาพนกเงือกเกาะแขน เป็นการสร้างค่านิยมที่ผิด อย่างน้อยควรสอบสวนเรื่องใบอนุญาตการครอบครองนกเงือกของนายวิกรม และถ้ามีใบอนุญาตจริง ก็มีคำถามตามมาว่านายวิกรมได้ใบอนุญาตมาอย่างไร เพราะการที่จะได้ใบอนุญาต ต้องเป็นการจดทะเบียนสวนสัตว์ ซึ่งเอกชนไม่สามารถทำได้