*รองนายกฯ-มท.1 ย้ำ ศ.ปราบโกงนปช.เสี่ยงผิดกม.หากเกิดความขัดแย้ง*

มาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า  ต้องขอดูรายละเอียดก่อนว่าเจ้าหน้าที่ของทำเนียบรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร แต่เบื้องต้นการดูแลความสงบเรียบร้อยภายในทำเนียบรัฐบาลมีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว ส่วนมาตราการดูแลปราบปรามการพนันในช่วงเทศการแข่งขันฟุตบอลยูโร โดยกล่าวว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดำเนินการในเรื่องนี้อยู่แล้ว ซึ่งส่วนตัวไม่ได้ดู หรือเชียร์ทีมใดเป็นพิเศษ เพราะไม่มีเวลา ดูแต่ความเรียบร้อยของประเทศ แต่ไม่ได้รู้สึกท้อและเหนื่อยในการทำหน้าที่

สำหรับการตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ7สิงหาคม ของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พลเอกประวิตร ยืนยันว่า มีความผิดตามกฏหมาย และหากตั้งแล้วเกิดความขัดแย้งก็จำเป็นต้องดำเนินการ แม้ว่า นปช.จะชี้แจงว่าไม่มีการเคลื่อนไหวต่อต้าน เพียงต้องการช่วยตรวจสอบให้ประชามติเป็นไปโดยสุจริต เพราะการตรวจสอบสามารถร่วมดำเนินการกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รวมทั้งหน่วยงานที่มีอยู่แล้วได้ ไม่จำเป็นจะต้องตั้งศูนย์มาใหม่ ส่วนที่มีกระแสข่าวในการตั้งศูนย์ปราบโกงที่จังหวัดลำปางนั้น

พลเอกประวิตร ยืนยันว่าไม่สามารถดำเนินการได้ และขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดที่กลุ่มนปช.ได้เดินทางไปยื่นหนังสือเรื่องนี้ ที่กระทรวงกลาโหม อย่างไรก็ตาม พลเอกประวิตร ยืนยันว่า สามารถดูแลสถานการณ์ในช่วงก่อนการทำประชามติได้ โดยกฎหมายตามปกติอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 ในการให้มีการจัดตั้ง

ด้านพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  กล่าวว่า การตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ 7 สิงหาคมว่า อาจจะเกิดความล่อแหลม สุ่มเสี่ยงขัดต่อคำสั่งของคสช. ในการรวมกลุ่มเกิน 5 คน และผู้ที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบประชามติ ต้องมีความเป็นกลาง แต่กลุ่มนปช.เคยพูดอย่างชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการทำงานของรัฐบาล  และอาจถูกนำไปโยงกับประเด็นทางการเมืองไม่ว่าประชามติจะผ่านหรือไม่ผ่าน อาจทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ดังนั้นควรเคารพเสียงประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิลงประชามติ ทั้งนี้ยังไม่มีการกำชับกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพราะยังไม่มีคำสั่งว่าศูนย์ปราบโกงจะตั้งได้หรือไม่ พร้อมทั้งเห็นว่าศูนย์ดังกล่าวไม่เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ