*รวบ2ผตห.อุ้มฆ่าเสี่ยตุ้ม ซัดทอดพ่อบงการ ขัดแย้งปมขายที่ดินกว่า100ล้าน*

การติดตามคนร้ายฆ่านายภาสพล หรือตุ้ม รัตนยาธิคุณ อายุ 45 ปี ที่ถูกยิงเสียชีวิตและทิ้งศพไว้บริเวณถนนสายสมเด็จ-ผาเสวย อ.สมเดจ จ.กาฬสินธุ์ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2559 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่และออกหมายจับแก๊งอุ้มฆ่าเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2559 ล่าสุด พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รองผบช.ภาค 4 พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.ภ.จ.กาฬสินธุ์ พร้อมนายวินัย วิทยานุกูล ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.อ.สิทธิศักดิ์ พรหมดิเรก เสธ.กกล.รส.จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีสำคัญ 2 ราย ประกอบด้วย นายมนูญหรือสิทธิ์ฐิคมน์ ภัทรเมธาพร อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นอดีตนายทหารบกยศ พ.อ. และนายกิตติภพ หรือเฉลา เครือไย อายุ 54 ปี อดีตนายทหารบกยศ ร.อ. พร้อมของกลางรถยนต์ยี่ห้อนิสสันอัลเมร่า สีแดง ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอม หมายเลข 1กร-7819 กทม. เสื้อเครื่องแบบข้าราชการทหารบกติดเครื่องหมายยศ พ.อ.(พิเศษ) 1 ชุด เสื้อเครื่องแบบข้าราชการทหารติดเครื่องหมายยศ พ.ต. 1 ชุด บัตรประจำตัวข้าราชการทหารบก (ปลอม) และบัตรประจำตัวเจ้าพนักงาน ปปส.(ปลอม) 1 ใบ ซึ่งทั้งสองถูกจับกุมได้ที่บริเวณปั๊มแก๊สเอ็นจีวี ริมถนนเพชรเกษม ม.8 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร  ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การว่าได้ร่วมกับพวกที่หลบหนีอีก 3 คน อุ้มตัวผู้ตายมายิงทิ้งที่เกิดเหตุ โดยได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 2 ล้านบาท ขณะกระทำผิดได้แต่งเครื่องแบบข้าราชการทหารบก เพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อและสะดวกในการกระทำผิดและง่ายต่อการหลบหนี

ด้านพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ส่วนที่เหลืออีก 3 คน ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามจับกุม คาดว่าน่าจะได้ตัวในเร็วๆ นี้          ขณะที่พล.ต.ต.อภิชิต กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่านายวิรัช หรือกอง รัตนตยาธิคุณ บิดาของผู้เสียชีวิต เป็นผู้จ้างวานและสั่งฆ่า โดยปมเหตุมาจากปัญหาเรื่องของการแบ่งสินทรัพย์ที่ได้จากการขายที่ดินที่มีเงินมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งก่อนนั้นผู้เสียชีวิตได้เข้าไปขอเงินส่วนแบ่งค่าขายที่ดินจำนวน 7 ล้านบาท ซึ่งหากไม่ได้จะขู่ฆ่า พร้อมประกาศจะฆ่าล้างครัวหากไม่ได้เงินส่วนนี้ แต่ถูกปฏิเสธและมีปากเสียงกันในครอบครัว โดยบิดาผู้เสียชีวิต เกรงว่านายภาสพล จะก่อเหตุเช่นนั้นจริงๆ เพราะผู้เสียชีวิตมีปืนและใจร้อน จึงเป็นจุดแตกหักลามมาถึงการสั่งฆ่าลูก โดยจ้างทีมอุ้มฆ่าทั้งหมด 5 คน และในวันก่อเหตุผู้ต้องหาทั้ง 2 คนยังได้แต่งกายด้วยเครื่องแบบทหารบกปลอม เพื่อหลอกให้ผู้อื่นหลงเชื่อและสะดวกในการลงมือฆ่านายภาสพลอีกด้วย

เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุด้วย โดยแจ้งข้อหาร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ร่วมกันกันฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน

แฟ้มภาพ