*ตำรวจ เผยนาทีดวลปืนกับคนร้ายกราดยิงที่เมืองออร์แลนโด*

13 มิถุนายน 2559, 21:27น.


กรณีนายโอมาร์ มาทีน มือปืนที่ใช้อาวุธปืนกราดยิงคนเสียชีวิต 50 ศพ ต่อมา เจ้าหน้าที่ปรับลดตัวเลขผู้เสียชีวิตลงมาเหลือ 49 คน เนื่องจาก ไม่นับการเสียชีวิตของมือปืน และบาดเจ็บ 53 คนที่พัลซ์ ไนต์คลับ ไนต์คลับของกลุ่มคนรักเพศด้วยกันในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดาเมื่อวันอาทิตย์ เวลา 02.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ ตำรวจ ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมของเหตุการณ์ตั้งแต่แรกเริ่มคือ เมื่อได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุว่าเกิดเหตุยิงกันในไนต์คลับดังกล่าวและภารกิจการช่วยเหลือคนในเวลาต่อมา นนายบัดดี ไดเยอร์ นายกเทศมนตรีเมืองออร์ลันโด ชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานบังคับใช้กฏหมายและชาวเมืองว่า กระทำตามหน้าที่เยี่ยงวีรบุรุษ



นายจอห์น มินา ผู้บังคับการตำรวจเมืองออร์ลันโด กล่าวว่า มีตำรวจที่ออกเวรแล้วคนหนึ่งไปรับทำงานนอกเวลาอยู่ที่ไนต์คลับนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น จึงเข้าไปดวลปืนกับคนร้ายใกล้บริเวณทางเข้า



จากนั้นไม่นานมีตำรวจเดินทางไปสมทบหลายคน ตำรวจเข้าไปในไนต์คลับและปะทะกับนายมาทีน ทำให้คนร้ายหยุดยิงและล่าถอยเข้าไปยังห้องน้ำพร้อมจับตัวประกันไปด้วยหลายคน จากนั้นคนร้ายยอมปล่อยตัวประกันออกมาหลายคน ผู้บังคับการตำรวจเมืองออร์แลนโด กล่าวว่าตอนแรกคนร้ายโทรศัพท์ไปแจ้งเหตุฉุกเฉินกับตำรวจ คนร้ายพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยและใจเย็น ประกาศภักดีต่อกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) และต่อมาอีกหลายคนในสถานบันเทิงแห่งนั้น โทรศัพท์ไปแจ้งเหตุ ทำให้ตำรวจเชื่อว่าน่าจะมีคนเสียชีวิตเพิ่มขึ้น ตำรวจพยายามจะระเบิดเพื่อเจาะช่องที่ผนังอาคาร เมื่อไม่เป็นผล ตำรวจจึงขับรถหุ้มเกราะพุ่งชนด้านข้างของอาคาร เพื่อเปิดช่อง



ต่อมานายมาทีน จึงโผล่ออกมาและกราดยิง ก่อนจะถูกตำรวจยิงสวน ทำให้เขาเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกัน มีการลดธงครึ่งเสาที่อนุเสาวรีย์ในกรุงวอชิงตันเพื่อร่วมไว้อาลัยผู้เสียชีวิต ตำรวจเคยเรียกนายมาทีนไปสอบปากคำ 2 ครั้งในปี 2555-2556 หลังการแสดงความเห็นกับเพื่อนร่วมงานในเชิงยั่วยุให้สังคมเกิดความแตกแยก สำหรับนายมาทีน พลเมืองสหรัฐฯเชื้อสายอัฟกัน เกิดในนครนิวยอร์ก แต่ไปอาศัยอยู่ในรัฐฟลอริดา ไม่เคยอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้ก่อการร้ายที่ทางการสหรัฐฯต้องเฝ้าระวัง



ทีมต่างประเทศ



CR:ABC7Chicago



 

ข่าวทั้งหมด

X