*ปลัดกทม. พร้อมส่งข้อมูลให้สตง.เพิ่มเติมกรณีการปรับปรุงห้องทำงานผู้ว่าฯ*

13 มิถุนายน 2559, 18:13น.


กรณีการปรับปรุงห้องทำงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และทีมงานมูลค่ากว่า 16 ล้านบาท  นพ.พีระพงษ์ สายเชื้อ ปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยว่า นายชัยวัฒน์ อนันตศานต์ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบการบริหารพัสดุและสืบสวนที่ 3 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้เข้าพบเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว เพื่อขอเอกสารและตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมกรณีการปรับปรุงห้องทำงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และทีมงานมูลค่ากว่า 16 ล้านบาท โดยสตง. ได้ติดต่อขอเข้าตรวจสอบห้องทำงานและห้องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ผู้ว่าฯ กทม.ยินให้ความร่วมมือกับสตง. ก่อนหน้านี้ได้ส่งเอกสารบางส่วนให้สตง. แล้ว ขณะนี้เหลือรายละเอียดและเอกสารบางส่วนที่จะส่งมอบให้ สตง. เพิ่มเติม โดยสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร กำลังรวบรวมข้อมูลและเอกสารต่างๆ อยู่ และกำหนดนัดส่งมอบให้ สตง. ในวันพรุ่งนี้(15 มิ.ย.2559)   



ปลัดกทม. กล่าวว่า การปรับปรุงห้องทำงานของผู้ว่าฯ กทม.เกิดขึ้นในช่วงที่ผู้ว่าฯ กทม.หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งตัวผู้ว่าฯ ไม่ได้ทราบเรื่องนี้ พอ กลับมาปฏิบัติหน้าที่ก็พบห้องทำงานในลักษณะดังกล่าว สาเหตุการปรับปรุงห้องทำงานเกิดจากฝ้าห้องน้ำถล่มลงมาจึงดำเนินการซ่อมแซม แต่เนื่องจากอาคารศาลาว่าการกทม.  มีอายุประมาณ 70 ปี และได้ทำการปรับปรุงใหญ่เมื่อ 40 กว่าปีที่แล้ว ลักษณะอาคารจึงคล้ายอาคารเก่าเมื่อมีการปรับปรุงหรือซ่อมแซมจุดหนึ่ง ทำให้ต้องขยายการซ่อมแซมเพิ่มไปยังจุดอื่น สำหรับการปรับปรุงดังกล่าวดำเนินการก่อนมีการอนุมัติโครงการ เป็นครั้งแรกของหน่วยงานที่มีการดำเนินการลักษณะนี้ โดยอำนาจการเซ็นอนุมัติโครงการหรือเบิกจ่ายงบประมาณเป็นของผู้อำนวยการสำนักการโยธา ทั้งนี้จะต้องรอผลสรุปจาก สตง. อีกครั้ง ว่ามีความผิดหรือไม่ อย่างไร ซึ่งจะดูใน 2 แนวทาง คือ เข้าข่ายทุจริตหรือไม่ และผิดระเบียบหรือไม่



ด้านผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบการบริหารพัสดุและสืบสวนที่ 3 กล่าวว่า จากการตรวจสอบภายในห้องทำงานผู้ว่าฯ กทม.และห้องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นพบว่ามีการดำเนินการตรงตามแบบแปลน แต่โครงการนี้ยังไม่มีการเบิกจ่ายเงิน สตง. จะทำการตรวจสอบอีกครั้ง ว่ามีความจำเป็นและเหมาะสมหรือไม่ หากเห็นว่ามีข้อบกพร่องหรือมีจุดอ่อนที่ต้องแก้ไขปรับปรุง จะระงับยับยั้งให้แก้ไขปรับปรุงก่อนการเบิกจ่ายเงิน ส่วนการสรุปผลจะต้องดูพฤติการณ์และรายละเอียดหลายอย่างประกอบ ปกติใช้เวลาตรวจสอบไม่นาน และภายในสัปดาห์นี้จะเรียกพยานบุคคลและเอกสารหลักฐานมาตรวจสอบก่อนแล้วรายงานผลให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินทราบต่อไป อย่างไรก็ตาม กทม. ได้ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบทุกห้องด้วยดีจึงไม่จำเป็น ต้องใช้อำนาจอายัดห้องทำงานดังกล่าว



 

ข่าวทั้งหมด

X