หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้นายเสรี ศุภราทิตย์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) และเริ่มปฏิบัติหน้าที่วันนี้เป็นวันแรก โดยเข้าร่วมประชุมผู้บริหารและพนักงาน พร้อมประกาศนโยบายบริหารจัดการน้ำ 5 นโยบาย คือการจัดหาน้ำดิบไม่ให้ขาดแคลนทั้งเพื่อการอุปโภคบริโภค ให้มีแหล่งน้ำเพื่อการผลิต และการลดปัญหาน้ำเสีย ซึ่งขณะนี้กำลังจัดทำงบประมาณในส่วนนี้อยู่ และดำเนินการตามนโยบาย Thailand4.0ของรัฐบาล โดยจะปรับใช้ให้สอดคล้องกับการดำเนินงาน ภายใต้ชื่อ PWA4.0 ของกปภ. และสุดท้ายคืออีก 10 ข้างหน้าจะต้องพัฒนาเป็น smart water management (swm) ที่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงานมากขึ้น และนำทรัพยากรมนุษย์ไปใช้ประโยชน์ทางด้านความคิด
นายเสรี กล่าวว่า สำหรับนโยบายการจัดหาน้ำดิบเพื่อการอุปโภคบริโภค ทั้งในพื้นที่ของกปภ. และนอกพื้นที่ ที่เป็นขององค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น ตามที่่กระทรวงมหาดไทยสั่งการให้เข้ามาช่วยเหลือนั้น ต้องเข้าไปทำความเข้าใจกับประชาชนว่าหากต้องการน้ำที่มีคุณภาพจะต้องมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น นอกจากนี้ จะมีการทำบันทึกช่วยจำกับกรมโยธา เพื่อขอแยกส่วนการใช้น้ำจากภาคการเกษตร มาเก็บกักไว้ในอ่างเก็บน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดการแย่งน้ำใช้
สำหรับสถานการณ์น้ำในปัจจุบันไปจนถึง 2-3 เดือนข้างหน้าปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย ยืนยันว่าจะไม่เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำ เนื่องจากการใช้น้ำในด้านอุปโภคบริโภคใช้น้ำเพียงแค่ร้อยละ 3 ของที่มีอยู่ แต่อาจจะกระทบภาคเกษตรกรที่ใช้น้ำถึงร้อยละ 80 ที่อาจต้องเลื่อนการเพาะปลูก
ส่วนกรณีที่สส.พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้ตรวจสอบความไม่โปร่งใสในการบริหารงานของ กปภ. รวม 5 เรื่อง อาทิ การจัดซื้อคลอรีนเหลว การวางท่อประปาที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ การก่อสร้างอาคารที่การประปาส่วนภูมิภาคเขต 1 การซื้อที่ดินที่ จ.สุราษฎร์ธานี ในราคาสูงเกินจริง และ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก เป็นบริษัทที่สูบเลือดจากการประปาส่วนภูมิภาค นายเสรีกล่าวว่า กปภ. มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงและลงโทษพนักงานไปแล้ว ส่วนในทางคดีแพ่งกำลังรอศาลปกครองพิจารณา
..
ผสข. ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ