ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ภายใต้โครงการ กลาโหมโปร่งใส ไร้คอรัปชั่น ระหว่างกระทรวงกลาโหม กับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. โดยมีหน่วยงานร่วมลงนามทั้งสิ้น 7 หน่วยงาน ได้แก่ กรมราชองค์รักษ์ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดยมีพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้กล่าวมอบนโยบาย และกล่าวว่า ในการดำเนินโครงการนี้ รัฐบาลไม่สามารถดำเนินการด้วยตัวเอง และต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกหน่วยงาน เพื่อแก้ไขปัญหาการคอร์รัปชันที่เกิดในประเทศชาติ และเพื่อให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า เงินที่ประชาชนเสียภาษีให้กับรัฐนั้น กระทรวงกลาโหมได้นำมาใช้อย่างมีคุณภาพ และการจะทำให้สำเร็จได้ต้องอาศัยกำลังพลทุกนายที่มีจิตสำนึกในการต่อต้านการทุจริต และหวังว่าการดำเนินการวันนี้ จะทำให้ประเทศชาติมีความเข้มแข็งและไร้ปัญหาทุจริต
ส่วนกรณีที่ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ และจะมีการเชิญองค์การสหประชาชาติเข้าร่วมสังเกตการณ์ พลเอกประวิตร กล่าวว่า เรื่องนี้ เป็นเรื่องภายในประเทศ และมีหน่วยงานทั้ง ป.ป.ช.และคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.กำกับดูแลอยู่แล้ว จึงขอให้กลุ่ม นปช. หยุดดำเนินการ เพราะหากมีการตั้งศูนย์ขึ้นมา ก็แปลว่า ใครนึกอยากตั้งศูนย์อะไรก็ตั้งได่ตามใจ แต่หากยังยืนยันที่จะเดินหน้าต่อ ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนเรื่องวันทำประชามติ เชื่อมั่นว่า จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้
ส่วนกรณีการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายของประเทศไทย ที่ขณะนี้ยังอยู่ได้รับใบเหลืองจากสหภาพยุโรป (EU) อยู่ ได้มีการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับเรื่องและดำเนินการแก้ไขตามแนวทางแล้ว โดยทางสหภาพยุโรปได้ให้เวลาจนถึงสิ้นปีนี้ ซึ่งยืนยันว่าขณะนี้เดินหน้ามาถูกทางแล้ว
..
ผสข.เกตุกนก ครองคุ้ม