*ผบช.ก.แถลงดำเนินคดีครูโพสต์ภาพอนาจาร ค้านประกันตัว ผตห.ยันไม่ใช่เด็กนร.อายุเกิน20ปี*

11 มิถุนายน 2559, 11:04น.


หลังจากเมื่อค่ำวานนี้ พนักงานสอบสวน กองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.)สามารถคุมตัวนายสาโรจน์ มีไผ่ ครูชายของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ใช้ทวิตเตอร์แชร์ภาพและคลิปวีดีโอขณะมีการล่วงละเมิดทางเพศเด็กนักเรียนชาย จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างแพร่หลายถึงความเหมาะสม มาสอบปากคำก่อนฝากขังไว้ที่ สน.ทุ่งสองห้อง ก่อนนำตัวมาแถลงข่าวที่กองบัญชาการสอบสวนกลางในวันนี้  พลตำรวจโทฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า ที่นำตัวมาแถลงข่าววันนี้ เพื่อต้องการเตือนสังคมไม่ให้กระทำเป็นเยี่ยงอย่าง และการนำข้อมูลมาเผยแพร่ ทำให้กระทบสังคมวงกว้างเป็นสิ่งที่ไม่สมควร ทั้งนี้ก็จะมีการสืบสวนขยายผลต่อไป 



ด้านพลตำรวจตรีศุภเศรษฐ์ โชคชัย ผู้บังคับการปราบปรามการ กระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาตามความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา14(5) และจะไปตรวจสอบเพิ่มเติมว่าเด็กและครูมีพฤติกรรมเกี่ยวเนื่องกันอย่างไรบ้าง ส่วนจะตั้งข้อหาเพิ่มเติมหรือไม่ ต้องสืบค้นขยายผลต่อไป และอยู่ระหว่างการตรวจสอบโทรศัพท์ของผู้ต้องหาที่มีทั้งหมด3เครื่อง ทั้งนี้ผู้ต้องหายอมรับว่าโพสต์ภาพบางส่วนในทวิตเตอร์ และบางส่วนเป็นการส่งต่อ รวมถึงจะต้องไปตรวจพิสูจน์ ว่า ในภาพเป็นเด็กและเยาวชนหรือไม่



อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหา ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาว่าไม่ได้ทำกระทำอนาจารเด็กตามที่มีการกล่าวอ้างและยืนยันว่า ภาพที่ปรากฎในโซเชียลไม่ใช่เด็ก ทุกคนมีอายุเกิน20ปี ทั้งยังอ้างว่า หลายข้อมูลที่นำเสนอไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น ไม่ใช่เด็กโรงเรียนสวนกุหลาบ ซึ่งภาพที่ปรากฎไป ไม่ได้มีอะไรที่บ่งบอกชัดเจนว่าเป็นนักเรียน หรือเป็นเยาวชน รวมถึงบางภาพ เป็นการแชร์มาจากโซเชียล เพราะมีกลุ่มที่พูดคุยกันในเรื่องลักษณะนี้อยู่แล้ว ส่วนข้อมูลบางอย่างไม่ได้มาจากตัวเองโดยตรง เพราะเมื่อรู้สึกถูกใจใครก็จะนำโทรศัพท์ไปแลกกันใช้  ทั้งนี้ผู้ต้องหา ระบุอีกว่า ไม่อยากให้พาดพิงไปถึงสถาบันการศึกษา เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว และยืนยันว่า ไม่เคยล่วงละเมิดทางเพศกับลูกศิษย์ในโรงเรียน แม้จะมีพฤติกรรมแบบนี้มานานกว่า 1ปีแล้วก็ตาม



ช่วงบ่ายวันนี้ พนักงานสอบสวน ปอท. จะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก และคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะยุ่งเหยิงกับพยานฐาน และมีการข่มขู่พยาน เพราะตัวผู้ต้องหาเป็นครู อาจมีผลต่อลูกศิษย์     สำหรับครูดังกล่าว ทางโรงเรียนได้มีการลงโทษทางวินัยไปแล้วคือสั่งให้ไปช่วยราชการที่เขต พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และไม่ให้สอนนักเรียน



ผู้สื่อข่าว: พนิตา สืบสมุทร 

ข่าวทั้งหมด

X