การดำเนินงานตามนโยบายและทิศทางการดำเนินงานในอนาคตของกรมชลประทาน นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ตามแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ปี 2558 -ถึง 2569 กรมชลประทาน ได้ตั้งเป้าหมายในการเพิ่มความจุกักเก็บน้ำ 4,800 ล้านลูกบาศก์เมตร และเพิ่มพื้นที่ชลประทาน จำนวน 8.7 ล้านไร่ โดยโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง ซึ่งในปี 2558-2559 ได้ดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน 37 โครงการ สามารถเพิ่มความจุกักเก็บน้ำได้ 679 ล้านลูกบาศก์เมตร และเพิ่มพื้นที่ชลประทานได้ถึง 316,820 ไร่ เช่น โครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวงรัชชโลทร จ.ชลบุรี อ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก จ.สระบุรี และ อ่างเก็บน้ำเลย จ.เลย นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่จะเพิ่มศักยภาพในการกักเก็บน้ำ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการทั้งในด้านภาคการเกษตรอุตสาหกรรมและอุปโภคบริโภค เช่นโครงการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยหลวงตอนล่าง จังหวัดหนองคาย โดยการสร้างพนังกั้นน้ำช่วงที่ตลิ่งต่ำจากแนวลำน้ำห้วยหลวง งานโครงข่ายชลประทานขนาดกลางจำนวน 12 แห่ง ซึ่งสามารถเพิ่มพื้นที่ชลประทานในฤดูฝนได้ 315,195 ไร่ และในฤดูแล้งได้ 250,000 ไร่ อีกทั้งยังช่วยบรรเทาปัญหา อุทกภัย ในเขตจังหวัดหนองคายและอุดรธานี รวมถึงเป็นแหล่งน้ำต้นทุน สำหรับเสริม น้ำในศักยภาพ ขยายพื้นที่ชลประทานให้กับลุ่มน้ำใกล้เคียงจำนวนถึง 1,300,000 ไร่อีกด้วย ซึ่งโครงการนี้กำหนดระยะเวลาดำเนินงาน 9 ปีคือปี 2560-2568
นอกจากนี้ ยังมีโครงการอ่างเก็บน้ำแม่สอดตอนบนในพื้นที่จังหวัดตาก ซึ่งมีแผนก่อสร้าง เพื่อใช้เป็นแหล่งกักเก็บน้ำ และรองรับการผลิตน้ำประปา การผลิต ไฟฟ้ากำลังน้ำ และสนับสนุนกิจกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดตาก อีกด้วย ทั้งนี้ กรมชลประทาน อยากให้จัดการประชุมแก้ปัญหาน้ำเพื่อเกิดประโยชน์สูงสุด คือ การบริหารจัดการน้ำ การออกแบบระบบส่งน้ำ ให้สอดคล้องกับการเพาะปลูกแต่ละพื้นที่อีกด้วย
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี