หลังจากที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ออกคำเตือนกรณีเหตุกราดยิงผู้คนในบริเวณศูนย์การค้า ใจกลางกรุงเทลอาวีฟ ใกล้กับที่ทำการกองทัพ และกระทรวงกลาโหมอิสราเอล ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ศพและบาดเจ็บ 6 คน พล.ต.ต. ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า การข่าวด้านความมั่นคง ไม่พบข้อมูลหรือความพยายามก่อเหตุในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีมาตรการเข้มงวดดูแลสถานทูต สถานกงสุล และพื้นที่เฝ้าระวัง รวมทั้งมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการข่าวกับหน่วยงานด้านความมั่งคงอย่างต่อเนื่อง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกำชับให้ดูแลอย่างเต็มที่ ขณะนี้ยังไม่มีสถานการณ์ใดที่น่าเป็นห่วง พร้อมทั้งเชื่อว่า คนไทยที่จะเดินทางไปอิสราเอล จะมีการติดตามข่าวสารและประเมินสถานการณ์ได้
ส่วนการชำระค่าปรับจราจร พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ กล่าวว่า สภานิติบัญญิติแห่งชาติ (สนช.)ได้อนุมัติหลักการในการชำระค่าปรับจราจร ตามช่องทางที่สะดวกกับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven หรือธนาคารต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประกาศเป็นพระราชกิจจานุเบกษา พ.ร.บ.จราจรทางบก คาดว่า จะสามารถประกาศใช้ได้โดยเร็วที่สุด ก่อนหน้านี้ได้มีการออกกฎหมายชำระค่าปรับทางไปรษณีย์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีการประสานงานเพื่อให้มีเคาท์เตอร์เซอร์วิสมากขึ้น เป็นการเพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกให้ประชาชนอีกทางหนึ่งด้วย
อย่างไรก็ตามเพื่อไม่เกิดความสับสนในการให้บริการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลกับธนาคารหรือร้านสะดวกซื้อต่างๆ และให้มีการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องทั่วถึง ซึ่งปัจจุบันประชาชนบางส่วนได้ทราบข้อมูลดังกล่าวบ้างแล้ว
ผู้สื่อข่าว: สมจิตร์ พูลสุข