*กรมทางหลวงขยายทางหลวง304ทำอุโมงค์ทางลอด ลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับสัตว์ป่า*

10 มิถุนายน 2559, 11:35น.


ความกังวลตัดถนนผ่านผืนป่ามรดกโลก  โดยเฉพาะการก่อสร้างทางเชื่อมผืนป่าและการขยายทางหลวงหมายเลข 304 นายพรชัย ศิลารมย์ นายช่างโครงการดังกล่าว เปิดเผยว่า ทางหลวงหมายเลข 304 เป็นโครงข่ายทางหลวงสายหลักที่เชื่อมโยงการเดินทางและขนส่งสินค้าระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สายสำคัญเพื่อรองรับการขนส่งสินค้าจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือสู่ท่าเรือแหลมฉบัง และพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมตะวันออก (Eastern-Seaboard) โดยถนนช่วงที่ตัดผ่านผืนป่ามรดกโลก ดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลาน มีถนนขนาด 2 ช่องจราจร ไป-กลับ ไม่สามารถรองรับการจราจรที่คับคั่งในปัจจุบันได้ อีกทั้งยังเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง



ดังนั้นกรมทางหลวงจึงดำเนินการก่อสร้างขยายทางหลวงหมายเลข 304 ควบคู่กับการก่อสร้างทางเชื่อมพื้นป่า บริเวณ กม. 191+860.000 - กม. 195+310.000 และบริเวณ กม. 207+760 - กม. 223+269.000 ให้เป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร โดยแบ่งการก่อสร้างเป็น 3 ตอน คือ ตอนที่ 1 โครงการสายอำเภอกบินทร์บุรี-อำเภอปักธงชัย ตอนที่ 2 โครงการสายอำเภอกบินทร์บุรี-อำเภอวังน้ำเขียว ตอนที่ 3 (ส่วนที่ 1) และตอนสุดท้าย คือ โครงการสายอำเภอกบินทร์บุรี-อำเภอวังน้ำเขียว ตอนที่ 3 (ส่วนที่ 2) ซึ่งจะรวมระยะทางก่อสร้างทั้งสิ้น 18.959 กิโลเมตร งบประมาณการก่อสร้างกว่า 2 พันล้านบาท รวมระยะเวลาการก่อสร้าง 36 เดือน (ในช่วงงบประมาณ 2559-2561) โดนได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2558 แล้ว



สำหรับการก่อสร้างถนนในบริเวณดังกล่าว จะต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก เพราะอยู่ในเขตป่า จึงต้องดำเนินการตามมาตรฐาน EIA และบางช่วงถนนจะมีการจัดทำอุโมงค์ทางลอด เพื่อลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นกับสัตว์ป่า โดยบริเวณด้านบนอุโมงค์จะมีการปรับสภาพให้เป็นผืนป่า เพื่อให้สัตว์สามารถเดินข้ามไปอีกฝั่งได้ กรมทางหลวงจึงต้องเจาะระเบิด เพื่อสร้างอุโมงค์ ในช่วงโครงการสายอำเภอกบินทร์บุรี-อำเภอวังน้ำเขียว ตอนที่ 3 (ส่วนที่ 1) ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 13 มิถุนายน - 31 ธันวาคม 2559 และจะมีการปิดการจราจรระหว่างเวลา 14.00 - 14.30 น. แต่ไม่ได้ปิดการจราจรทุกวัน จะปิดการจราจรเฉพาะวันที่ประเมินแล้วว่าสามารถระเบิดอุโมงค์ได้ โดยในช่วงก่อนเทศกาลหยุดยาว เดือนธันวาคม จะหยุดการดำเนินงานเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการเดินทางของประชาชน ทั้งนี้การระเบิดอุโมงค์ใต้ดินจะไม่ส่งผลกระทบตาอประชาชนและสัตว์ป่าในบริเวณนั้น เนื่องจากจะมีการขุดพื้นใต้ดินลึก มีการนำแผ่นยางและล้อรถยนต์มาคลุมปากหลุม ดินจะกระจายออกมาน้อย เสียงและแรงสั่นสะเทือนมีไม่มาก เมื่อระเบิดเสร็จเจ้าหน้าที่จะเร่งทำความสะอาดถนนทันที





ด้าน นายนรินทร์ ศรีสมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักก่อสร้างสะพาน ในฐานะผู้ควบคุมงานโครงการดังกล่าว เปิดเผยว่า กรมทางหลวงได้มีการวางแผน ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อจัดการจราจรและอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการสัญจรระหว่างการก่อสร้าง พร้อมจัดตั้งศูนย์ข้อมูลประชาสัมพันธ์โครงการเชื่อมผืนป่า บริเวณทางหลวงหมายเลข 304 กม. 201+200 เพื่อเป็นช่องถามติดต่อสอบถาม แนะนำ และรับข้อร้องเรียนต่างๆ หรือสอบถามผ่านสายด่วน 1586 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง



ข่าวทั้งหมด

X