นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้รับผิดชอบโครงการรับจำข้าว เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จ.นนทบุรี เพื่อยื่นคำร้องให้ไต่สวนพยานหลักฐาน 3 ประเด็น จนสิ้นกระแสความ ก่อนจะสรุปสำนวน ได้แก่ การไต่สวนเรื่องสต๊อกข้าว 2 ล้าน 9 แสน 7 หมื่นตัน ในโครงการรับจำนำข้าว ที่ยังมีข้อโต้แย้ง ระหว่างคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ของ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ อดีตรองปลัดกระทรวงการคลัง กับองค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อการเกษตรกร (อตก.) เพื่อยืนยันว่า ข้าว 2 ล้าน 9 แสน 7 หมื่นตันไม่ได้หายจากสต๊อก
เรื่องการคิดการเสื่อมสภาพข้าวในสต๊อกของรัฐบาลที่ยังมีความเห็นแตกต่างกันระหว่างคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ กับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
และเรื่องการคำนวณความเสียหายในโครงการจำนำข้าวที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชี ใช้หลักเกณฑ์การประมาณผลการขาดทุนในการปิดบัญชีโครงการฯ ไม่ถูกต้อง จนเกิดความแตกต่างเรื่องการประมาณการขาดทุนถึง 172,933 ล้านบาท
ซึ่งทั้งสามประเด็นเป็นสาระสำคัญ และยังไม่มีการไต่สวนให้สิ้นกระแสความ จึงขอให้ ป.ป.ช.ไต่สวนให้สิ้นกระแสความเพื่อพิสูจน์ว่า ข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทุจริตและเพิกเฉยต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นใน โครงการรับจำนำข้าวนั้น ไม่เป็นความจริง โดยจะขอให้ ป.ป.ช.ไต่สวนพยานเพิ่มเติมอีก 8 ปาก เพื่อมาให้ข้อมูล ได้แก่ นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล ผอ.องค์การคลังสินค้า นายประกอบ รัตนภักดี หัวหน้ากองธุรกิจข้าว ในฐานะทำการแทน ผอ.องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) นายสมชัย สัจจพงษ์ ผอ.สำนักเศรษฐกิจการคลัง นายพชร อนันตศิลป์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนาการเงินนอกงบประมาณ กรมบัญชีกลาง และรองประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว นายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานคณะผู้บริหารบริษัท ซี.พี. อินเตอร์เทรด จำกัด นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี นายถวิล พึ่งมา ประธานคณะทำงานพิจารณากำหนดกรอบคุณภาพและกลไกราคาตามสภาพข้าวสารในสต็อก รัฐบาล และนายพิชัย ชุณหวชิร นักบัญชีอิสระ
....