*พนักงานสอบสวนประชุมเปลี่ยนตัวทีมงานคดีพระธัมมชโยหรือไม่/กกต.ไม่เลื่อนประชามติรธน./ไล่ล่าคนร้ายยิงเด็ก 15 เสียชีวิต*

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.

+++วันนี้ ต้องติดตาม หลังวัดพระธรรมกายขอให้เปลี่ยนตัว พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผบ.สำนักคดีการเงิน การธนาคาร ดีเอสไอ และ อัยการการ ใน คดีพระธัมมชโย ที่ถูกดีเอสไอดำเนินคดี ข้อหาความผิดฟอกเงิน ร่วมกันสมคบฟอกเงิน และรับของโจร นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 สำนักการสอบสวนกล่าวว่า ในวันนี้ นี้ คณะพนักงานสอบสวนจะมีการหยิบยกประเด็นนี้มาหารือในที่ประชุม หากมีการปรับตนออกจากคณะพนักงานสอบสวน ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด พร้อมจะปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่าการทำหน้าที่ไม่มี 2 มาตรฐาน ซึ่งการเจรจา 3 ฝ่าย เป็นวิธีดำเนินการทางปกครองสงฆ์ที่สามารถทำคู่ขนานไปกับการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ยืนยันว่าพระธัมมชโยไม่สามารถต่อรองได้ แต่อาจเป็นเรื่องเจรจาว่าจะมีรายละเอียดมอบตัวกันอย่างไร ความจริงแล้วเรื่องไม่ควรขยายใหญ่โตจนวันนี้พูดประเด็นว่าจะต้องให้ประกันตัวทันทีหากมอบตัว เพราะความจริงหากพระธัมมชโยมาเซ็นชื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในระยะเวลาตามกำหนด ทางพนักงานสอบสวนดีเอสไอก็พร้อมจะปล่อยตัวไป และสู้คดีในศาลตามที่เคยแจ้งไว้ ทางทนายความของพระธัมมชโยและทีมวัดพระธรรมกายพยายามที่จะวางประเด็นขุดบ่อล่อให้เจ้าพนักงานเกิดแผล ดังนั้น พนักงานสอบสวนต้องระมัดระวังทุกขั้นตอนไม่ให้เกิดเหตุทำผิดมาตรา 157 ยืนยันว่าที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนไม่ได้ดำเนินการพลการซึ่งดำเนินการตามมติที่ประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีทุกประการ

+++กรณีนี้หากไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหาไปส่งฟ้องอัยการได้ แต่สามารถทำรายงานเหตุการณ์ให้ศาลทราบว่า ทางพนักงานสอบสวนได้ปฏิบัติตามศาลอนุมัติหมายจับแล้ว ไม่ถือว่าละเว้นปฏิบัติหน้าที่ หากมีการเข้าไปจับตัวผู้ต้องหาแล้ว มีการประเมินว่าจะเกิดการสูญเสียขึ้นมาก็จะกลายเป็นการทำเกินกว่าเหตุ ดังนั้น ทางคดีก็ดำเนินการส่งฟ้องไป และผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับแล้ว ถือว่าอยู่ภายใต้ควบคุมอำนาจรัฐ ถ้ากรณีที่สามารถจับตัวได้ และผู้ต้องหามีอาการป่วยจะต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจเพื่อรักษาจนอาการดีขี้น จากนั้นศาลจะสั่งให้พนักงานสอบสวนนำตัวส่งศาลตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

++++ด้านศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา ยังยืนยันเดินหน้าในการตรวจสอบการออกใบรับรองแพทย์พระธัมมชโยว่าเป็นของจริงหรือไม่ โดยจากนี้จะออกหนังสือเรียกแพทย์ผู้ที่ออกใบรับรองแพทย์ และเวชระเบียนการรักษา เอกสาร หลักฐานการตรวจสุขภาพ อาทิ ฟิล์มเอกซเรย์ ผลการตรวจเลือด ผลการอัลตราซาวด์ และผลการตรวจสุขภาพอื่นๆ มาประกอบการพิจารณาโดยเร็ว ซึ่งตามปกติเมื่อดูจากเอกสารหลักฐานเหล่านี้แล้วก็พอที่จะบอกได้ว่าสอดคล้องข้อเท็จจริงทางด้านสุขภาพพระธัมมชโยได้ แต่หากมีการส่งเอกสารเท็จ จะถือว่ามีความผิดร้ายแรง สามารถเอาผิดขั้นพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาตได้ และหากไม่ยอมมาให้ข้อมูล หรือส่งเอกสารมาให้แพทยสภาสามารถพิจารณาได้ทันทีว่าข้อมูลสุขภาพที่ให้มาก่อนหน้านี้ถือเป็นเท็จ และเอาโทษหมอที่ออกใบรับรองแพทยได้ถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาต ซึ่งถือเป็นโทษสูงสุดทำให้หมอไม่สามารถทำการรักษาคนไข้ได้อีก ขณะเดียวกันก็จะส่งข้อมูลถึงกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เพื่อให้ทราบว่าหมอคนนี้ไม่สามารถรักษาคนไข้ได้อีก

+++วันนี้  เวลา 10.00 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษมีกำหนด ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษครั้งที่ 1/2559  ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 1 อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ โดยมี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม

+++คณะกรรมการการเลือกตั้งเชื่อประชามติจะไม่เลื่อนออกไปแน่นอน ไม่ว่าผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาอย่างไร  นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องพิจารณาว่า พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2559 มาตรา 61 วรรคสอง มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 ว่า เฉพาะคำว่าหยาบคาย ก้าวร้าว รุนแรง ก็จะไปยกตัวนี้มา ด้วยลักษณะของตัวนี้ มันไม่ผิด แต่ต้องอ่านประกอบกันทั้งวรรค และการที่คุณเอาไปเผยแพร่ในลักษณะที่บิดเบือนข้อเท็จจริง ก้าวร้าว รุนแรง เพื่อมุ่งไปสู่การปลุกระดม จะต้องครบองค์ประกอบนี้ ไม่ใช่พูดแล้วไม่มีการปลุกระดม ก็ไม่ใช่ ส่วนการแสดงความคิดเห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีหรือไม่อย่างไร ก็ว่าไม่ไป

++++ส่วนกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ขอให้ กกต.ยุติการพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญและยุติการอบรมครู ก. ครู ข. นายศุภชัย กล่าวว่า จะต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งออกมาก่อน ว่าหากยุติไป อาจจะดำเนินการไม่ทันวันออกเสียงประชามติ ขณะที่การวิจารณ์ถึงเนื้อหาเพลงรณรงค์ประชามติว่าเป็นการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายนั้น จุดประสงค์ของเพลงดังกล่าวคือการเชิญชวนคนออกมาใช้สิทธิ์ ไม่มีเจตนาจะแบ่งแยกชี้นำ และมองว่าเป็นการจ้องจับผิดของคนบางกลุ่มมากกว่า

+++ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้งกล่าวว่า ขณะนี้มาตรา 61 วรรคสองของ พ.ร.บ.ประชามติ กำลังตกเป็นจำเลยของสังคม มีการกล่าวหากันว่าใครเป็นผู้ร่างกฎหมาย แต่ตนยืนยันว่ามาตรา 61 วรรคสอง เป็นของดี ต้องถามว่าขณะนี้เราต้องการให้สังคมเอาเรื่องเท็จมาหลอกกันเพื่อให้ประชาชนตัดสินใจลงประชามติบนความรู้พื้นฐานที่ผิดหรือไม่ หรือต้องการให้ใช้คำหยาบคายรุนแรงต่อกันเช่นนั้นหรือไม่ รวมทั้งต้องการให้เกิดการปลุกระดมไม่เคารพกฎหมายออกมาเดินขบวนเผาบ้านเผาเมืองอย่างนั้นหรือไม่ ทั้งที่เจตนารมณ์ของผู้ยกร่างเพื่อเป็นการปรามเหตุการณ์เหล่านี้ไว้

+++ส่วนกรณีที่นักการเมืองในต่างจังหวัดถูกเรียกเข้าค่ายทหารนายสมชัย ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการเรียกไปปรับทัศนคติ ข่มขู่คุกคามแต่อย่างใด เป็นการประชุมร่วมกันเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจเรื่องร่างรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับที่เคยจัดในกรุงเทพฯ ที่ กกต.เคยจัด ซึ่งในวันที่ 11 มิถุนายนนี้ กกต.เป็นเจ้าภาพในการประชุมที่ จ.นครศรีธรรมราช, วันที่ 18 มิถุนายน ประชุมที่ จ.เชียงใหม่ และวันที่ 25 มิถุนายน ประชุมที่ จ.นครราชสีมา

+++ด้านนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เผยว่า ได้มอบหมายให้สำนักเลขาธิการวุฒิสภาส่งข้อมูลและเอกสารที่เป็นหลักการและเหตุผลของมาตรา 61 วรรคสอง ของ พ.ร.บ.ประชามติ ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญภายใน 7 วัน และแม้ว่ากรณีนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาแล้ว แต่กระบวนการจัดให้มีการออกเสียงประชามติเดินหน้าต่อไปแน่นอน ไม่มีอะไรต้องหยุด

++++ในช่วง13.00น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. พร้อมคณะ จะไปยื่นหนังสือถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประเด็น เรื่องศูนย์ปราบโกง

+++วันนี้ ต้องติดตาม ในเวลา 9.00น. ศาลทหารนัดสอบคำให้การและฟังคำวินิจฉัยเรื่องเขตอำนาจศาล ในคดีที่สมาชิกกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ประกอบไปด้วยนายสิรวืชญ์ เสรีธิวัฒน์ (จ่านิว), นายอานนท์ นำภา, นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ, และนายวรรณเกียรตื ชูสุวรรณ ร่วมกันจัดกิจกรรมเลือกตั้งที่(รัก)ลัก เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2558 บริเวณหน้าหอศิลปฯกรุงเทพมหานครหมายทหาร

+++11.00 น. พันเอกวินธัย สุวารี โฆษกฯ คสช. พร้อมทีมงาน แถลงข่าวประจำสัปดาห์ ณ ห้องแถลงข่าว 60 ปี ที่กองทัพบก

+++ปิดท้ายตำรวจเร่งไล่ล่าคนร้ายยิงนายธีรภัทร หรือเบียร์ ไชยหงษ์ อายุ 15 ปี ถูกยิงศีรษะ 1 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา บริเวณจุดกลับรถถนนสุวินทวงศ์ สี่แยกมีนบุรี แขวงและเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม ผกก.สน.มีนบุรี กล่าวถึงความคืบหน้าคดีว่าจากการสอบสวนทราบว่าคนร้าย 3 คน สวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีดำ หมวกกันน็อกสีดำ แต่งกายคล้ายนักเรียนอาชีวะ ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125 สีดำ ไม่ทราบทะเบียน ตามรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตมาจากถนนสุวินทวงศ์ขาออก จุดเกิดเหตุคนร้ายพยายามขี่รถแซงขึ้น ก่อนที่คนซ้อนท้ายคนที่ 3 ชักปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่ศีรษะผู้เสียชีวิต 1 นัด จนรถจักรยานยนต์ล้มลง ก่อนหลบหนีไป ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทำงานพิเศษอยู่ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในซอยลาดพร้าว 155 ไม่เคยมีเรื่องโกรธเคืองหรือทะเลาะกับใครมาก่อน

+++ตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายอาจเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคู่อริต่างสถาบัน หรือต้องการยิงอริเพื่อเก็บแต้มและแสดงศักยภาพ ฝ่ายสืบสวนพอจะรู้เบาะแสผู้กระทำความผิดแล้วว่าเป็นเด็กนักเรียนอาชีวะแห่งหนึ่งในย่านมีนบุรี อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็วเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ จากการลงพื้นที่ทราบว่า กลุ่มคนร้ายมีทั้งหมด 5 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน โดยญาติจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดป่าน้ำชุนพัฒนา ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ และจะฌาปนกิจในวันที่ 11 มิถุนายน สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นอยู่ห่างจากป้อมตำรวจจราจรบริเวณสี่แยกมีนบุรีเพียง 100 เมตร และขณะเกิดเหตุก็มี เจ้าหน้าที่ตำรวจคอยอำนวยความสะดวกการจราจรในแยกดังกล่าวด้วย