*มท.1 พร้อมแก้ไขปัญหาสังคม/ธ.โลกปรับศก.ไทยโตร้อยละ 2.5/วิกฤตศก.ยูโรโซนอยู่ยาว*

*สรุปข่าว 19.35น*

++++หลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง (ปค.) เข้าตรวจค้นและจับกุมที่สถานบริการ นาตารี อาบอบนวด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของกรมการปกครองมีอำนาจหน้าที่ที่จะแก้ไขปัญหาสังคมตามกฎหมาย ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมาบางส่วนได้การร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมของกระทรวงมหาดไทย และการดำเนินงานด้านการข่าวของเจ้าหน้าที่  เป็นการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงอยากบอกไปยังประชาชนว่าต้องช่วยกันจัดระเบียบสังคมให้ดีขึ้น เพราะปัญหามีหลายด้านทั้งการค้ามนุษย์ สิทธิมนุษยชน และเยาวชน จึงขอให้ร่วมมือกัน โดยสามารถแจ้งเบาะแสเพื่อช่วยให้สังคมดีขึ้น กระทรวงมหาดไทยทำงานร่วมกับตำรวจและ คสช. ไม่ได้ทำแค่เพียงกระทรวงมหาดไทยอย่างเดียว

+++หลังการประชุมหารือร่วมกับภาคธุรกิจเอกชนเพื่อกระตุ้น ส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีธนาคารโลก (World Bank) ปรับประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ  GDPของประเทศไทยว่า เศรษฐกิจไทยมีการเติบโตขึ้น จากเดิมอยู่ที่ร้อยละ 2 เป็นร้อยละ 2.5 หากเศรษฐกิจไม่ดีจริง ทางWorld Bankจะไม่ปรับค่าGDPขึ้นแน่นอน แต่ประเทศไทยก็ไม่ควรประมาท เนื่องจากปัจจัยภายนอก เศรษฐกิจโลกยังมีปัญหาอยู่และต้องดูการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจีนด้วย เพราะหากประเทศจีนมีปัญหา จะส่งกระทบต่อการส่งออกของประเทศไทย เพราะยังต้องพึ่งพาเศรษฐกิจในภาคเอเชียอยู่ สิ่งสำคัญคือ เราต้องพึ่งพาตัวเอง

+++การคุมขังนายชูชีพ หาญสวัสดิ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายวิทยา เทียนทอง อดีตเลขานุการ รมว.เกษตรฯ ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจำคุก 6 ปี ในคดีฮั้วประมูลการจัดซื้อปุ๋ย นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ของวันนี้ ทางเรือนจำได้ให้แพทย์จากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เข้าไปดำเนินการตรวจร่างกายผู้ต้องขังทั้ง 2 คน อย่างละเอียดอีกครั้ง  หลังทราบว่าผู้ต้องขังทั้ง 2 คน มีโรคประจำตัวมาก เนื่องจากมีอายุมากแล้ว โดยเฉพาะความดันโลหิตสูง แพทย์จึงมีความเห็นว่าให้ย้ายผู้ต้องขังทั้ง 2 คน ไปรักษาอาการที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อให้อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ยังตอบไม่ได้ว่าจะต้องให้อยู่ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลกี่วัน จึงจะนำตัวกลับมาคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

+++หลังวัดพระธรรมกายส่งหนังสือขอเลื่อนการตรวจอาการอาพาธของพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย นายแพทย์สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา เปิดเผยถึง กรณีที่วัดพระธรรมกายส่งหนังสือแจ้งมายังคณะแพทยสภาเพื่อขอเลื่อนการตรวจอาการอาพาธของพระธัมมชโย ออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยหลังการประชุมคณะแพทยสภามีมติให้ชะลอและยุติบทบาทการตรวจวินิจฉัยอาการอาพาธของพระธัมมชโยออกไปก่อน หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการทั้งหมด 3 ท่าน ซึ่งนายแพทย์สัมพันธ์ จะเป็นประธานคณะอนุกรรมการ เพื่อทำการพิจารณาในประเด็นของการออกใบรับรองแพทย์ของพระธัมมชโย ซึ่งจะเริ่มมีการประชุมกันในสัปดาห์หน้าโดยต้องพิจารณากันอย่างละเอียดรอบคอบ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน เพื่อในขั้นตอนต่อไปจะได้ทำการเชิญแพทย์ที่ทำการรักษารวมถึงแพทย์จากคลีนิคที่รักษาอาการอาพาธของพระธัมมชโยเข้ามาพบและให้ข้อมูล ซึ่งหากทั้งหมดไม่เดินทางเข้ามาพบ ก็จะมีการพิจาณายึดใบอนุญาตแพทย์ และอาจพิจารณาปิดคลินิกต่อไป

+++นายศิริ หวังบุญเกิด อดีด ส.ส.พรรคไทยรักไทย กทม. อดีตกรรมการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอนุกรรมการสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นตัวแทนพระวิสุทธิสารเถร หรือหลวงตาจันทร์ เจ้าอาวาสวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน ประธานมูลนิธิวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เปิดแถลงข่าว กรณี นายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมกำลังนำหมายค้นมาขนย้ายเสือโคร่งของกลาง จำนวน 147 ตัว รวมทั้งการตรวจค้นพบซากสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดต่างๆ ออกไปจากวัด ระหว่างวันที่ 30 พ.ค.ถึง 4 มิ.ย. ยืนยันว่า ข่าวที่ออกนั้นไปทุกอย่างไปลงที่พระอาจารย์ทั้งหมด พร้อมปฎิเสธว่า วัดแห่งนี้ไม่ได้เป็นเส้นทางสำหรับการค้าเสือในตลาดมืด และปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด พระวิสุทธิสารเถร หรือหลวงตาจันทร์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกกรณี และจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่มีการนมัสการหลวงพ่อไปสอบปากคำแต่อย่างใด และขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปตามหาอดีตนายสัตวแพทย์ที่เป็นผู้ดูแลเสือของกลางทั้งหมด และขอให้สอบสวนว่า การที่นายสัตวแพทย์คนดังกล่าวดองลูกเสือโคร่งไว้ในขวดโหลนั้น ดองไว้เพื่ออะไร ซึ่งหากเจ้าหน้าที่สอบสวนอดีตหมอที่ดูแลเสืออย่างแท้จริงก็จะทำให้สังคมได้รู้ข้อเท็จจริงอย่างแน่นอน พร้อมระบุว่า  กรมอุทยานฯ กำลังร่วมมือกับองค์กรต่างชาติองค์กรหนึ่งเพื่อนำเสือโคร่งของกลางไปเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดราชบุรีอีกด้วย 

+++นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) เตือนว่า ยุโรปยังมีโอกาสเสี่ยงประสบปัญหาเศรษฐกิจที่มีผลกระทบเชิงลบในระยะยาว  รวมถึงนโยบายการเงินอย่างเดียวคงไม่อาจจะใช้เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ได้ทั้งหมด เขาพูดเรื่องนี้ในที่ประชุมเศรษฐกิจในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม ระบุว่า การผลิตได้ต่ำกว่าศักยภาพที่ควรจะทำได้เป็นเวลานานๆย่อมจะลดประสิทธิภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจของเขตยูโรโซน แทนที่การผลิตจะค่อยๆเพิ่มขึ้นไปจนกระทั่งผลิตได้เต็มศักยภาพ ปรากฏว่าการผลิตลดต่ำกว่าศักยภาพที่แท้จริง ส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง พร้อม ตั้งข้อสังเกตว่ารัฐสมาชิกบางประเทศอ้างเหตุผลทางการเมืองต่างๆนานาเพื่อเลื่อนแผนปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งนับว่าจะส่งผลเสียหายในระยะยาวเช่นกัน

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,435.65 จุด ลดลง 9.89 จุด (-0.68%) มูลค่าการซื้อขาย 42,154.51 ล้านบาท

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดปรับตัวลงในวันนี้ เนื่องจากภาวะการซื้อขายถูกดดันจากรายงานยอดสั่งซื้อเครื่องจักรญี่ปุ่นที่อ่อนแอเกินคาดในเดือนเม.ย. ประกอบกับสกุลเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐปิดลดลง 162.51 จุด หรือ ที่ 16,668.41 จุด

+++การสอบเอ็นทรานซ์เข้าศึกษามหาวิทยาลัยในจีน หรือที่จีนเรียก “เกาเข่า” มีขึ้นสองวัน 7-8 พ.ค มีนักเรียนมัธยมปลาย ราว 9 ล้านคน เข้าสอบฯวิชาคณิตศาสตร์และภาษาต่างประเทศ ปีนี้ เป็น ปีแรกที่จีนใช้มาตรการ ปราบปรามเด็กโกงข้อสอบด้วยโทษจำคุกนานสุดถึง 7 ปี อีกทั้งห้ามเข้าร่วมการสอบเกาเข่า 3 ปี   ส่วนในปักกิ่ง ได้จัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษหรือทีมสวาท (SWAT) มาส่งมาแจกข้อสอบ ทั้งส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างน้อย 8 นาย มาคุมสนามสอบแต่ละแห่ง ขณะที่เจ้าหน้าที่อีกกลุ่มก็ลุยตรวจสอบอุปกรณ์ไร้สาย ผู้เข้าสอบปลอม และกลโกงในการโกงข้อสอบอื่นๆ จากรายงานของสำนักข่าวซินหวา  ตำรวจในมณฑลเหอหนันทางภาคกลางของจีนได้จับกุมผู้ขายข้อสอบปลอม 9 คน สำหรับการที่จีนใช้มาตรการลงโทษหนักต่อผู้โกงข้อสอบและผู้ช่วยเหลือหรือมีส่วนร่วมในการโกงข้อสอบ เนื่องจากการโกงข้อสอบจะบั่นทอนอิทธิพลการสอบเกาเข่า และกระทั่งทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล.