นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) เตือนว่า ยุโรปยังมีโอกาสเสี่ยงประสบปัญหาเศรษฐกิจที่มีผลกระทบเชิงลบในระยะยาว สืบเนื่องจากผลผลิตที่ตกต่ำและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่ำต่อเนื่อง ย้ำถึงข้อโต้แย้งของเขาที่ว่า นโยบายการเงินอย่างเดียวคงไม่อาจจะใช้เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ได้ทั้งหมด เขาพูดเรื่องนี้ในที่ประชุมเศรษฐกิจในกรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม ระบุว่า การผลิตได้ต่ำกว่าศักยภาพที่ควรจะทำได้เป็นเวลานานๆย่อมจะลดประสิทธิภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจของเขตยูโรโซน แทนที่การผลิตจะค่อยๆเพิ่มขึ้นไปจนกระทั่งผลิตได้เต็มศักยภาพ ปรากฏว่าการผลิตลดต่ำกว่าศักยภาพที่แท้จริง ส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้เขายกตัวภาคธุรกิจที่ควรจะพัฒนาให้มากขึ้นในเขตยูโรโซนคือ ศักยภาพด้านนวัตกรรมโดยเฉพาะในภาคบริการ นอกจากนี้จำเป็นต้องใช้ศักยภาพของแรงงานในเขตยูโรอย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโต โดยกำหนดมาตรการต่างๆที่เหมาะสมกับสภาพตลาดแรงงานและการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก่อนหน้านี้ อีซีบีได้ผ่อนคลายนโยบายอัตราดอกเบี้ยมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตโดยต่อเนื่องและควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในเป้าหมายคือ ต่ำกว่ำร้อยละ 2 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้เขาตั้งข้อสังเกตว่ารัฐสมาชิกบางประเทศอ้างเหตุผลทางการเมืองต่างๆนานาเพื่อเลื่อนแผนปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งนับว่าจะส่งผลเสียหายในระยะยาวเช่นกัน ก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจในเขตยูโรโซนเติบโตเพียงร้อยละ 1.6 เมื่อปีก่อน การเติบโตส่วนใหญ่เป็นผลสืบเนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของอีซีบี แต่คาดว่าอัตราการเติบโตจะทรงตัวในระดับนี้ต่อเนื่องไปอีกหลายปี/17.43 น.