*ประธานสนช.เตรียมเอกสารพ.ร.บ.ประชามติแจงศาลรธน.ย้ำไม่กระทบการลงประชามติ*

09 มิถุนายน 2559, 16:01น.


การเตรียมเอกสารเพื่อชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากที่รับวินิจฉัยว่าพระราชบัญญัติการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ในมาตรา 61 วรรค 2 ขัดรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 หรือไม่ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)กล่าวว่า  สนช.เตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วยหลักการและเหตุผล เจตนารมณ์ และข้ออภิปรายการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประชามติ ซึ่งขั้นตอนการชี้แจงนั้นจะเป็นการชี้แจงรูปแบบเอกสารตามที่ศาลรัฐธรรมนูญร้องขอเท่านั้น ไม่ใช่เป็นการชี้แจงด้วยวาจา ปฏิเสธที่จะตอบคำถามหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ  ยืนยันว่า แม้ศาลรัฐธรรมนูญ จะรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินไว้พิจารณา แต่การดำเนินการออกเสียงประชามติ ก็ยังคงต้องเดินหน้าต่อไป



ร้อยเอกทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) จะพิจารณาวาระ 2 วาระ 3 ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งหากผ่านความเห็นชอบและประกาศใช้เป็นกฎหมาย ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ คาดว่า จะสามารถเริ่มรับดำเนินคดีได้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป ร่างกฎหมายฉบับนี้ จะเป็นไปตามเจตนารมย์ของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบในทุกภาคส่วน เพื่อให้การดำเนินคดีมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว และยังได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงยุติธรรมในการให้คำชี้แนะด้วย



ขณะที่นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ วิป สปท. เปิดเผยว่า  ในวันจันทร์ที่ 13 มิ.ย.นี้ ที่ประชุมสปท. จะพิจารณาแผนการวางแนวทางและมาตรการการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ที่คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมที่พิจารณาแล้วเสร็จ โดยเสนอให้วิธีการพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ เป็นไปด้วยความเป็นธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ ซึ่งการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่จะดำรงตำแหน่งตั้งแต่ระดับผู้ช่วย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติขึ้นไป ให้พิจารณาเรียงลำดับอาวุโสเพียงสถานเดียว ส่วนข้าราชการตำรวจที่จะได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งสารวัตรขึ้นไป จนถึงผู้บัญชาการ จะต้องพิจารณาเรียงลำดับตามบัญชีอาวุโส ประกอบกับความรู้ ความสามารถ ความประพฤติ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของจำนวนตำแหน่งที่ว่าง และอีกร้อยละ 30 ให้พิจารณาจากเรียงลำดับตามบัญชีอาวุโส ประกอบกับความรู้ ความสามารถ ความประพฤติเช่นกัน แต่หากมีเหตุผลจำเป็น ให้ข้ามลำดับอาวุโสได้ และจะต้องได้รับความเห็นชอบจาก ก.ตร.นายคำนูณ ยืนยันว่า การปฏิรูปแนวทางของคณะกรรมาธิการนั้น ได้ดำเนินการอย่างสอดคล้องกับร่างรัฐธรรมนูญ ของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. ตามมาตรา 258 ที่เกี่ยวกับการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตำรวจ ให้เหมาะสม มีประสิทธิภาพ มีหลักประกันว่าตำรวจจะได้รับค่าตอบแทนอย่างเหมาะสม และได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้ง



ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี



แฟ้มภาพ



 



 

ข่าวทั้งหมด

X