+++เว็บไซต์บรรษัทกระจายเสียงออสเตรเลีย (เอบีซี) รายงานข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทยทรงครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปีในวันนี้ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก เอบีซี รายงานว่า ตลอดช่วงเวลาของการครองสิริราชสมบัติ สถานการณ์ในประเทศมีเรื่องราวเกิดขึ้นต่าง ๆ มากมาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระชนมพรรษา 88 พรรษาทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของปวงชนและทรงเป็นแรงบันดาลใจให้พสกนิกร
+++สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าวพสกนิกรชาวไทยร่วมถวายพระพรเนื่องในโอกาสมหามงคลเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 โดยได้จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองและประดับพระบรมฉายาลักษณ์ตามสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ
+++วันแรกที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) เปิดให้ประชาชนแลกธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี ชนิดราคา 70 บาท จ่ายแลกราคา 100 บาท ที่ธนาคารพาณิชย์ทั่วประเทศ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 4 แห่ง ธปท.จัดพิมพ์ธนบัตรที่ระลึกจำนวน 20 ล้านฉบับ โดยจ่ายแลกพร้อมแผ่นบรรจุราคา 100 บาท รายได้ส่วนต่างจากการจ่ายแลกธนบัตรทั้งหมดจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
+++สำหรับบรรยากาศที่ธนาคารต่างๆ มีประชาชนจำนวนมากมาเข้าแถว เพื่อแลกธนบัตรที่ระลึกตั้งแต่ช่วงเช้า ประชาชนที่สนใจสามารถติดต่อขอแลกได้ที่ธนาคารพาณิชย์ทั่วประเทศ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
+++ส่วนบรรยากาศเปิดจำหน่ายเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็มีความคึกคักเช่นกัน ประชาชนสนใจเป็นจำนวนมาก มารอต่อคิวตั้งแต่ 05.00 น.ส่งผลให้เมื่อกรมธนารักษ์เปิดให้บริการ ช่วงเวลา 8.30 น. คิวครบเต็มจำนวน 400 คิวทันที
+++ธนาคารกลางเกาหลีใต้(บีโอเค) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์อีกร้อยละ 0.25 ลงมาที่ร้อยละ 1.25 นับเป็นการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 12 เดือนของเกาหลีใต้ ถือว่าเป็นไปโดยไม่ได้คาดกันไว้ก่อนและไม่มีข่าวเปิดเผยล่วงหน้า และเป็นระดับต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ค่าเงินวอนอ่อนตัวลงทันทีร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ
+++นักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่าบีโอเคจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากรัฐบาลกำลังหาทางปรับโครงสร้างบริษัทหลายแห่งที่กำลังแบกรับภาระหนี้สินปริมาณมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเอเชีย แต่ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( จีดีพี ) ในไตรมาสแรกของปีนี้เติบโตเพียงร้อยละ 0.5 เท่านั้น เมื่อเทียบกับไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว
+++นายธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีอาวุโสวิชาการและงานวิจัยและผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤษภาคม 2559 ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 72.6 ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ต่ำสุดในรอบ 8 เดือน นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่าภาวะเศษฐกิจไทยในปัจจุบันฟื้นตัวค่อนข้างช้า กำลังซื้อยังฟื้นตัวไม่มาก แต่ผู้บริโภคมีความคาดหวังว่าเศรษฐกิจ การจ้างงาน และรายได้ในอนาคตจะปรับตัวดีขึ้น ตามการลงทุนภาครัฐครึ่งปีหลัง ดังนั้น ภาครัฐจะต้องเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แต่ประชาชนยังระมัดระวังในการใช้จ่าย
+++ส่วนพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงฟุตบอลยูโร 2016 ซึ่งจัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 1-6 มิถุนายน 2559 พบว่า บรรยากาศภาพรวมฟุตบอลยูโร 2016 น่าจะมีความคึกคักระดับหนึ่ง ประชาชนยังคงรับชมการถ่ายทอดฟุตบอลในบ้าน แต่จะคึกคักโดยเฉพาะวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์
+++นายประวิช รัตนเพียร คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวถึง กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ให้วินิจฉัยว่ามาตรา 61 วรรคสอง ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ขัดรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวหรือไม่ โดยให้กกต.และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ส่งเอกสารชี้แจง ถึงเจตนารมณ์ เหตุผลและที่มาของการ เขียนวรรคดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญภายใน 7 วัน กกต.เตรียมพิจารณาเรื่องนี้ต้นสัปดาห์หน้า โดยจะเป็นการส่งความคิดเห็นในลักษณะที่ว่ามาตรา 61 วรรคสอง มีผลกระทบต่อการทำงานของ กกต.หรือไม่และจะแนบคำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เรื่องความสงบเรียบร้อยให้ศาลด้วยหรือไม่ ต้องรอข้อสรุปจากที่ประชุมก่อน ซึ่งจะเป็นการรวบรวมความเห็นแบบตรงไปตรงมา แต่ศาลจะเห็นเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่การวินิจฉัยของศาล ทั้งนี้ยืนยันไม่ว่าจะมีมาตรา 61 วรรคสองหรือไม่ ก็จะไม่กระทบต่อการทำประชามติอย่างแน่นอน
+++ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษาอุทธรณ์คดีที่นายจตุพร หรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ( นปช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเมธี อมรวุฒิกุล อดีตดารานักแสดงชื่อดัง และอดีตแนวร่วม นปช. จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 7 คน ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา กรณีเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2553 นายเมธี ระบุว่า นายจตุพร อมเงินบริจาคของคนเสื้อแดงจำนวน 68 ล้านบาท และมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับผู้หญิงบนชายหาดเมืองพัทยา รวมทั้งกล่าวหาว่านายจตุพรโทรศัพท์ขู่ฆ่าจำเลย คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า นายเมธี จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานหมิ่นประมาทฯ ให้จำคุก 2 ปี และปรับ 1 แสนบาท ศาลอุทธรณ์ ระบุ คำเบิกความเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาเห็นควรลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 1 ปี 4 เดือน และปรับ 66,666 บาท ขณะที่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ส่วนจำเลยที่ 2-7 ให้ยกฟ้อง เนื่องจากไม่มีหลักฐานเพียงพอว่าร่วมกับนายเมธี จำเลยที่ 1 กระทำผิด ศาลได้ออกหมายจับนายเมธี เนื่องจากไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตามนัด นายเมธี กล่าวว่า ตัวเองอยู่ในโครงการคุ้มครองพยาน ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ คดีที่ นปช. ถูกฟ้องข้อหาก่อการร้าย และไม่ทราบนัดในครั้งก่อน แต่เมื่อทราบว่าถูกออกหมายจับเจ้าหน้าที่ก็ได้พาตัวเองเข้ามอบตัว และศาลถอนหมายจับแล้ว