คณะกรรมการบริหารกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยประจาปี 2559 ว่า เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวปี 2558 หลังจากชะลอลงในช่วงก่อนหน้าจากเหตุการณ์ทางการเมือง โดยขยายตัวร้อยละ 2.8 ส่วนเศรษฐกิจระยะข้างหน้า คาดว่าจะฟื้นตัวต่อเนื่องอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยขยายตัวร้อยละ 3 ในปี 2559 และ 3.2 ในปี 2560 ซึ่งยังเป็นอัตราที่ต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน รวมทั้งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในอดีต
ปัจจัยพื้นฐานที่เข้มแข็งช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยสามารถเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ จากทั้งปัจจัยภายในและภายนอกได้ โดยเงินสำรองระหว่างประเทศและการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่อยู่ในระดับสูง และหนี้ต่างประเทศมีสัดส่วนต่ำจะช่วยรองรับผลกระทบจากความอ่อนแอและความไม่แน่นอน ในภาวะเศรษฐกิจการเงินโลก
สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไป คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น หลังจากราคาน้ำมันเริ่มปรับสูงขึ้น แต่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายของ ธปท. เนื่องจากการบริโภคในประเทศยังอ่อนแอ สำหรับความท้าทายระยะต่อไปมาจากความเปราะบางของเศรษฐกิจโลก ความไม่แน่นอนทางการเมืองของไทย และข้อจำกัดของโครงสร้างเศรษฐกิจที่เป็นอุปสรรคต่อศักยภาพการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย
คณะกรรมการบริหารไอเอ็มเอฟ เห็นว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ยต่ำในปัจจุบันมีความเหมาะสม โดยระยะต่อไปแม้จะยังสามารถผ่อนคลายนโยบายการเงินได้เพิ่ม แต่ควรคำนึงถึงการรักษาสมดุลระหว่างการสนันสนุน การขยายตัวของเศรษฐกิจกับการดูแลเสถียรภาพการเงิน รวมถึงการรักษาขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายในยามจำเป็น และชมเชยกรอบการดำเนินนโยบายการเงินของไทยที่มีมาตรฐานความโปร่งใสสูง และเสนอแนะให้ทางการสื่อสารถึงความตั้งใจที่จะดูแลเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเป้าหมายระยะปานกลาง ซึ่งจะช่วยเสริมประสิทธิภาพช่องทางการส่งผ่านนโยบายให้ดียิ่งขึ้น