หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แถลงว่า ตามที่กระทรวงพลังงานดำเนินการแก้ไขพระราชบัญญัติปิโตรเลียม และเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2558 นำเสนอร่างพระราชบัญญัติปิโตรเลียม (ฉบับที่ …) พ.ศ. … และร่างพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม (ฉบับที่… ) พ.ศ… โดยเพิ่มทางเลือกให้รัฐบาลสามารถนำระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (Production Sharing Contract : PSC) มาใช้นอกเหนือจากระบบสัมปทาน ซึ่งคณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2558 มีมติเห็นชอบในหลักการและส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อไป
เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและสอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปด้านพลังงาน คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ปรับปรุงแก้ไขมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 และเพิ่มเติมหมวด 3/1 และ 3/2 เพื่อเปิดโอกาสให้รัฐสามารถนำระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) และระบบSC มาใช้ โดยระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต ได้นำหลักการของระบบ PSC ในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย – มาเลเซีย (Malaysia-Thailand Joint Development Area : MTJDA) มาปรับใช้ ซึ่งจะทำให้ระบบบริหารจัดการทรัพยากรปิโตรเลียมมี 3 ระบบ คือ 1.ระบบสัมปทานปิโตรเลียม 2.ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต และ 3.ระบบสัญญาจ้างสำรวจและผลิต และเห็นควรให้การกำกับดูแลยังคงอยู่ภายใต้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ โดยคำแนะนำของคณะกรรมการปิโตรเลียม ในส่วนของพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียมเป็นการปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องกับระบบบริหารจัดการที่เพิ่มเติม ทั้งนี้ ร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวจะเสนอต่อ สนช.เพื่อพิจารณาต่อไป
แฟ้มภาพ