กรณีที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐ นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน มีการแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐ ยังอยู่ในอันดับ 3 ในภูมิภาคที่ร้อยละ 0.7 รองจากริงกิตของมาเลเซียที่แข็งค่าร้อยละ 1.02 และรูเปียห์ของอินโดนีเซียที่แข็งค่าร้อยละ 1.2 ส่วนค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นร้อยละ 2 ยังเป็นไปในทิศทางเดียวกับสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค เพราะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐออกมาไม่ดี ทำให้อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปเป็นเดือนกันยายนจากเดิมคาดว่าจะปรับขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้ และเป็นวัฏจักรที่หมุนเวียนแบบนี้ตลอด 6 สัปดาห์ที่จะประชุมในแต่ละรอบ
ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ปิดที่ระดับ 35.28/29 บาท/เหรียญสหรัฐ แข็งค่าจากระดับ 35.62 บาท/เหรียญสหรัฐ เมื่อวันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน
นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า แม้ว่าสงครามค่าเงินที่แต่ละประเทศพยายามให้ค่าเงินในประเทศอ่อนค่าลง สร้างความผันผวนให้กับตลาดเงิน แต่ปรากฏว่า ในภูมิภาคนี้รวมทั้งผู้ส่งออก ผู้นำเข้า และนักลงทุนในไทยเริ่มมีการปรับตัว และสร้างความอดทนต่อการรับมือค่าเงินที่ผันผวนได้ดีขึ้น เห็นได้จากความผันผวนของตลาดเงินที่ยังมีอยู่ แต่ไม่กระทบต่อค่าเงินบาทอย่างรุนแรงเหมือนช่วงก่อนหน้านี้ โดยค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อวานนี้เป็นเพียงการแข็งค่าระยะสั้น
นายมูเนโนริ อิชิกาว่า รองผู้อำนวยการ แผนกภาคการผลิตในอุตสาหกรรม องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร ประเทศญี่ปุ่น) เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมด้านระบบจัดการพลังงานและการจัดการของเสียในโรงงานจากประเทศญี่ปุ่น ให้ความสนใจเข้ามาทำตลาดไทยและต้องการหาคู่ค้าในไทย เพื่อร่วมลงทุนและขยายธุรกิจ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมด้านระบบพลังงานและการจัดการของเสียในโรงงานของประเทศไทยมีขนาดใหญ่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยมีทั้งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และผู้ประกอบการรายขนาดกลาง รวมถึงเอสเอ็มอี ที่สนใจเข้ามาร่วมมือกับผู้ประกอบการในไทย โดยเจโทรนำผู้ประกอบการรวมประมาณ 11 บริษัท เข้ามาร่วมงานแสดงเทคโนโลยีและการประชุมด้านพลังงานหมุนเวียน และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อจับคู่ธุรกิจกับผู้ประกอบการไทย
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมนำเงินงบรายจ่ายอื่น จำนวน 150 ล้านบาท เป็นเงินสำรองจ่ายให้กองทุนภาพยนตร์ สำหรับจ่ายคืนให้กองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศที่เดินทางมาใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ ตามมาตรการสิทธิประโยชน์ (อินเซนทีฟ) ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างจัดทำร่างกฎหมาย คาดว่าจะใช้เวลากว่า 1 ปี ซึ่งหากการร่างกฎหมายล่าช้า เกรงว่าจะทำให้ประเทศไทยสูญเสียโอกาสที่ต่างประเทศติดต่อเข้ามาใช้สถานที่ถ่ายทำ หากสำรองจ่ายไปก่อนล่วงหน้า จะทำให้เบิกจ่ายได้ในวันที่ 1 มกราคม 2560
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. เปิดเผยว่า มีเอกชนหลายรายที่แสดงความสนใจเข้ามาลงทุนในโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์โดยรอบศูนย์คมนาคมพหลโยธิน ทั้งกลุ่มผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของไทย และผู้ประกอบการต่างชาติ ขณะที่การศึกษารายละเอียดและการพัฒนาต้นแบบการพัฒนาพื้นที่ประมาณ 2,300 ไร่ ว่า คาดว่าจะสรุปรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ได้ปลายเดือนกรกฎาคมนี้ จากนั้นจะเสนอไปยังกระทรวงคมนาคม ซึ่งจะเสนอแผนแม่บทต่อคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เพื่อให้ความเห็นชอบกรอบและเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบได้ภายในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมคู่ขนานไปกับการศึกษา EIA
ส่วนการตรวจจับคนต่างด้าวลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต นายสุรศักดิ์ ไกยสิทธิ์ หัวหน้าฝ่ายควบคุมตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าว กองตรวจและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน นำเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานลงพื้นที่ตรวจจับคนต่างด้าวลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตในย่านลาดพร้าว กรุงเทพฯ ตามที่รับแจ้งมีกลุ่มคนสัญชาติลาว พม่า และกัมพูชา ค้าขายอาหารแย่งอาชีพคนไทยมานานหลายปี แต่ไม่เคยถูกเจ้าหน้าที่ตรวจจับกุม ทั้งที่เป็นอาชีพต้องห้ามสำหรับ คนต่างด้าว ซึ่งจากการตรวจร้านขายอาหารที่บริเวณปากซอยลาดพร้าว 128/2 จับกุมผู้ต้องหา 5 คนคือ นายทองปาน สนามอุ่น อายุ 34 ปี น.ส.แสง วงสาลี อายุ 31 ปี สองผัวเมียชาวลาว เปิดร้านขายอาหารตามสั่ง นางนาน อะเท อายุ 40 ปี นายนีนี ซอว์ อายุ 28 ปี สองผัวเมียชาวพม่า เปิดร้านขายปลาเผาซีฟู้ด นางไล ซา อายุ 30 ปี ชาวกัมพูชา เปิดร้านขายไก่ทอดหาดใหญ่ ทั้งหมดนำตัวส่งดำเนินคดีที่ สน.ลาดพร้าว ในข้อหาเป็นชาวต่างด้าวลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 2,000-1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะส่งกลับประเทศต้นทางต่อไป
ทั้งนี้ คู่สามีภรรยาชาวเมียนมา เล่าว่า อยู่เมืองไทยมา 6 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้เป็นลูกจ้างร้านขายอาหาร มีใบอนุญาตทำงานอย่างถูกต้อง ได้ค่าจ้างตามค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท แต่ต่อมานายจ้างเลิกค้าขายและเดินทางไปต่างประเทศ จึงค้าขายเองและทราบว่าเป็นอาชีพห้ามคนต่างด้าวดำเนินการ แต่ก็ค้าขายมานาน 4 ปีแล้ว ไม่เคยถูกตำรวจจับ และการค้าขายเองก็มีรายได้ดีกว่าเป็นลูกจ้าง
ส่วนกรณีที่มีคนต่างด้าว อ้างเรื่องส่วยสติกเกอร์ของกระทรวงแรงงานนั้น นายอารักษ์ พรหมณี อธิบดี กรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่าไม่เป็นความจริง และหลังสิ้นสุดวันขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว ในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ จะเพิ่มความถี่ในการตรวจมากขึ้น
นายแพทย์ธีรวัฒน์ วลัยเสถียร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 (ศคร.) นครราชสีมา เปิดเผยว่า ภายหลังจากในหลายพื้นที่ของอีสานตอนล่าง ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และจังหวัดสุรินทร์ มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ ทั้งเกษตรกรเริ่มการเพาะปลูก จึงเตือนให้ประชาชนหรือเกษตรกรที่จะต้องยืนแช่น้ำเป็นเวลานานสวมใส่รองเท้าบู๊ต เพื่อป้องกันการป่วยเป็นโรคเล็บโตสไปโรซิส หรือโรคฉี่หนู โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 30 พฤษภาคม 2559 เพียง 5 เดือน พบผู้ป่วยโรคฉี่หนูรวมทั้งสิ้น 63 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย แยกเป็นรายจังหวัด จ.นครราชสีมา มีผู้ป่วย 14 ราย จ.บุรีรัมย์ มีผู้ป่วย 5 ราย จ.สุรินทร์ มีผู้ป่วย 43 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และ จ.ชัยภูมิ มีผู้ป่วย 1 ราย
การดำเนินคดีพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย พระธรรมกาย ในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงินและ ร่วมกันรับของโจร จากการรับเช็คสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น
น.พ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า ยังไม่ได้รับหนังสือจากพระธัมมชโย เรื่องให้แพทย์ส่วนกลางจากแพทยสภา ร่วมกับราชวิทยาลัยส่งไปตรวจยืนยันการอาพาธ ซึ่งเหตุที่ต้องรอหนังสือก็เพราะผู้ป่วยต้องเป็นคนร้องขอให้แพทย์ตรวจส่วนที่มีการเรียกร้องให้นำแพทย์จาก รพ.พระมงกุฎเกล้าไปตรวจอีกนั้น ก็เป็นเรื่องของพระธัมมชโย กับวัดพระธรรมกาย
พล.ท.นพ.ชุมพร เปี่ยมสมบูรณ์ เจ้ากรมแพทย์ทหารบก และผู้อำนวยการ รพ.พระมงกุฎเกล้า กล่าวว่าต้องเป็นการประสานกับทางกองทัพบกตามลำดับขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นความประสงค์ของดีเอสไอหรือวัดพระธรรมกาย ซึ่งความจริงแพทย์ทุกคนมีความรู้ความสามารถเท่าเทียมกัน ส่วนกรณีผลสอบ พ.ท.นพ.สิริพงษ์ พัฒนธนาวิสุทธิ์ รอง ผอ.รพ.ค่ายภาณุรังษี ซึ่งพบว่ามีความผิดทางวินัย ขณะนี้ก็ปฏิบัติตามคำสั่งของกองทัพให้ปฏิบัติในหน้าที่ของแพทย์ผู้รักษาเท่านั้น และยังรอผลสอบใบรับรองแพทย์จากทางดีเอสไอ เพื่อนำมาใช้พิจารณาประกอบ
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างดำเนินการคู่ขนานทั้งการประสานเจ้าคณะปกครองและการส่งชุดสืบสวน เข้าไปหาพระธัมมชโยภายในวัด
ส่วนการประชุมหาข้อยุติทางเจ้าคณะปกครองสงฆ์เพื่อให้พระธัมมชโยรับทราบข้อกล่าวหา โดยมีพระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เป็นคนกลาง ประสานดีเอสไอการประชุมยังไม่ได้ข้อยุติ และนัดประชุมครั้งต่อไป ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ซึ่งทางดีเอสไอระบุว่า สำนวนสอบสวนคดีนี้ คือคดีร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน และรับของโจร มีผู้ต้องหา 5 คน แจ้งข้อหาแล้ว 3 คน เหลือพระ 1 รูป และ 1 คน ตามหมายจับ หากไม่ได้ตัวมาก็สามารถสรุปสำนวนส่งฟ้องได้
ในวันนี้ นายไพบูลย์ นิติตะวัน พร้อมกับทนาย จะไปศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อยื่นคำฟ้องของ หลวงปู่พุทธะอิสระและนายไพบูลย์ นิติตะวัน ในฐานะโจทก์ ฟ้องดำเนินคดีเครือข่ายศิษย์พระธัมมชโยในจังหวัดต่าง ๆ รวม 8 ราย ซึ่งร่วมกันไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธร รวม 6 จังหวัด โดยมีเจตนาไม่สุจริต
ส่วนที่วัดพระธรรมกายทั้งในช่วงเช้าและบ่ายวันนี้ ก็จะมีการแถลงข่าวเหมือนกัน โดยช่วงเช้าเป็นการแถลงของวัด และบ่ายเป็นเรื่องการเคลื่อนไหวของคณะศิษย์