การตรวจสอบอาคาร 2 ชั้น 4ห้องของโรงเเรมสยามบีชรีสอร์ท บนเกาะช้าง จังหวัดตราด ถล่มเมื่อวันที่4 มิ.ย. ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ศพ บาดเจ็บ 5คน ศาสตราจารย์ดร.อมร พิมานมาศ นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญด้านอาคารคอนกรีต ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และเลขาธิการสภาวิศวกร กล่าวว่า สภาวิศวกร ตั้งสาเหตุการถล่มไว้5ประเด็น คือ พื้นที่ตั้งมีความเสี่ยง ชั้นดินไม่มั่นคง ฐานรากอาคารไม่แข็งแรง โครงสร้างอาคารได้มาตรฐานหรือไม่ และ วิศวกรที่ออกแบบและคุมงานก่อสร้างได้ออกแบบตามหลักวิศวกรรมหรือไม่ เนื่องจากโรงแรม เป็นอาคารสาธารณะ จึงต้องมีวิศวกรระดับสามัญเข้ามาควบคุม ยังไม่สรุปว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่หากผลสรุปออกมาว่าการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน หรือการออกแบบละเลย ผู้ที่รับผิดชอบคือวิศวกร แต่ถ้าการออกแบบถูกต้องจะพิจารณาถึงการควบคุมงาน ว่ามีการเร่งรีบหรือประหยัดงบประมาณหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้ผู้ประกอบการต้องร่วมรับผิดชอบด้วยเช่นกัน ศาสตราจารย์อมร กล่าวว่า วันที่10-11 มิ.ย.นี้ สภาวิศวกรจะลงพื้นที่เก็บข้อมูลชั้นดิน ระดับน้ำใต้ดิน ระดับน้ำฝนที่ตกในวันเกิดเหตุ แบบโครงสร้างอาคาร ระดับความลาดชันของพื้นที่ การออกแบบอาคารโดยวิศวกร รายละเอียดการเสริมเหล็ก และทำหนังสือขอข้อมูลจากเทศบาล ดังนั้นจึงสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์หาสาเหตุ จากนั้นจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบต่ออีก6เดือน-1ปี ซึ่งระยะเวลาการตรวจสอบคิดว่าไม่นานเกินไป เนื่องจากต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย พร้อมทั้งเชิญวิศวกรมาให้ปากคำ และต้องวิเคราะห์อย่างละเอียดต่อไป
ศาสตราจารย์ดร. อมร แนะว่า ประชาชนในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง เช่น ที่ลาดชัน ใกล้ริมน้ำ ทางน้ำผ่าน ควรสังเกตและเฝ้าระวัง เร่งตรวจสอบอาคาร หลังฝนตกหนัก หากตรวจสอบพบการแตกร้าวหรือบ่งชี้ว่าอาจเกิดการทรุดตัว ควรรีบแจ้งทางวิศกรให้เข้ามาตรวจสอบ
ด้านดร.กมล ตรรกบุตร นายกสภาวิศวกร ระบุว่า สภาวิศวกรรม จะตรวจสอบผู้ออกแบบและควบคุมงานก่อสร้างอาคารมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ เนื่องจากจะต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมจากสภาวิศวกรตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.2542 ที่จะต้องสร้างอาคารให้มีความมั่นคงแข็งแรงและมีความปลอดภัยต่อการใช้งาน จากนั้นจะส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการจรรยาบรรณ ซึ่งมีอำนาจพิจารณาและวินิจฉัยด้านจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพวิศวกรรมของผู้ได้รับใบอนุญาตต่อไป ส่วนบทลงโทษ จะมีตั้งแต่ตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตตามกรณีความร้ายแรง และหากตรวจสอบแล้วไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน3ปี หรือปรับไม่เกิน60,000บาท หรือทั้งจำทัังปรับ
ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ