กรณีการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจตำแหน่งสารวัตร (สว.) ถึงรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ที่มีความล่าช้าและยังไม่ลงตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่าเป็นเรื่องของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่จะต้องชี้แจงข้อบกพร่อง ซึ่งมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้ว เป็นปัญหาที่ผู้รับผิดชอบต้องไปแก้ไขปัญหากันเอง ไม่ใช่ให้ตนเองไปเข้าสั่งแก้ แต่หากแก้ไม่ได้ถึงจะเข้าไปสั่งการ เพราะปัญหาทั้งหมดเกิดจากระบบที่ไม่เคยมีการปรับโยกย้ายจำนวนมากขนาดนี้ และมีการปรับถึง หมื่นตำแหน่ง และเรื่องนี้พลเอกประวิตร วงษ์สุววรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าไปดูแลการแก้ปัญหาแล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีกล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติว่า หากทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนที่ตนเองรู้แล้วจะหนาวหมายความว่าอย่างไร นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียด พร้อมกล่าวว่า ทุกวันนี้ยังไม่รู้หรือว่าประเทศมีปัญหา และตนเองไม่สามารถพูดถึงความเลวที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ เพราะเกิดการขยายความให้คนอีกพวกมาด่าตนเองอีก แต่หากต้องการจะอยู่แบบนั้นก็เอาส่วนตัวก็จะไม่ว่าอะไร ส่วนหากจะหนาวมากกว่านี้หรือไม่ ก็ไม่สามารถบอกได้พร้อมขออย่าตีความเพื่อสร้างความขัดแย้งและสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศ
ส่วนกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ศูนย์นี้ม่มีผลทางกฎหมาย และเตือนว่าอย่าทำผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และอย่าชี้น้ำหรือรณรงค์ล้มหรือไม่ล้มประชามติเพราะถือว่ามีความผิด พร้อมกันนี้ยังถามกลับว่าเหตุใดจึงไม่ตั้งศูนย์ปราบโกงในกรณีอื่นบ้าง อย่างเช่นคดีทุจริต คดีโครงการรับจำนำข้าว
อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีที่มาสเตอร์โพลเผยผบสำรวจที่มีการสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล นายกรัฐมนตรี ระบุว่าปกติส่วนตัวไม่สนใจผลสำรวจอยู่แล้ว และย้ำว่าไม่ได้อารมณ์ดีขึ้นแม้จะสนับสนุนรัฐบาล เพราะปัญหาของประเทศอยู่ในใจของตนเอง ดังนั้นเมื่อสื่อออกมาวิจารณ์ทุกอย่างก็จะเกิดความวุ่นวาย แล้วจะมาคาดหวังอะไรกับการปฏิรูป และการเข้ามาทำหน้าที่ของตนเองและอนาคตของลูกหลาน
..
ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี