*รมว.พณ.ตรวจตลาดรุ่งเจริญ ย้ำติดราคาให้ชัด ยึดตาชั่งไม่ได้มาตรฐาน ทุเรียนปีนี้แพง*

การลงพื้นที่ไปตรวจสอบราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ตลาดรุ่งเจริญ เขตยานนาวา ช่วงที่ราคาสินค้าแพง นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กำชับให้พ่อค้าแม่ค้าติดป้ายราคาสินค้าชัดเจน รักษาความสะอาดสดของสินค้าและพื้นที่ภายในตลาด ตลาดรุ่งเจริญเป็นตลาดสดขนาดกลาง มีร้านค้าประมาณ 700 แผง ภาพรวมในการตรวจวันนี้ตลาดค่อนข้างสะอาด ทุกร้านติดป้ายราคาชัดเจน ซึ่งราคาผักในขณะนี้ลดลงจากเดือนที่แล้ว เช่น พริก ผักบุ้ง ผักชี และ ถั่วฝักยาว จากกิโลกรัมละ150-200 บาทปัจจุบันราคากิโลกรัมละ 50 บาท เนื่องจากระยะนี้มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องทำให้แก้ปัญหาภัยแล้งได้ระดับหนึ่ง

ด้านเนื้อหมู ราคาอยู่ที่ 130-150 บาทซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปกติ ผลไม้ เช่น ลิ้นจี่ อยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาท ทุเรียนกิโลกรัมละ 160 บาท ซึ่งผลไม้จะไม่ขาดตลาด เพราะหากผลไม้ที่รับมาจากภาคตะวันออกหมด ก็เป็นช่วงผลไม้ทางภาคใต้ที่กำลังออกมา ขณะที่ราคาอาหารสำเร็จรูปเช่น ข้าวราดแกง ราคากับข้าว 1อย่าง 15 บาท 2 อย่าง 25-30 บาท ซึ่งจากการสอบถามผู้ค้า จะยังคงสภาพราคานี้ไว้ ไม่ขึ้นราคา เพราะหากขายแพงเกินไปลูกค้าก็จะไม่ซื้อ

กรมการค้าภายใน ให้ความสำคัญกับการขนส่ง เพื่อไม่ให้สินค้าตกค้างอยู่ที่สวน จึงใช้การกระจายสินค้าออกสู่ตลาดทั่วประเทศเพื่อให้ถึงมือผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ กรมการค้าภายใน ยังตรวจตราชั่ง จำนวน 262 เครื่อง ผ่านเกณฑ์ 257 เครื่อง และยึดไว้ 5 เครื่อง ชำรุดจากสภาพการใช้งาน

ด้านนางหญิง แม่ค้าทุเรียน บอกว่า ราคาทุเรียนหน้าสวนปีนี้แพงขึ้นกว่าเดิม1เท่าตัว หรือประมาณ 40 บาท ซึ่งตัวเองขายทุเรียนมาประมาณ 10 ปีแล้ว ราคาหน้าสวนไม่เคยแพงเท่าปีนี้ และปีนี้ขายไม่ค่อยดี เพราะราคาขึ้นไปถึงกิโลกรัมละ140 บาท นอกจากนี้ นางหญิง บอกว่า การไปรับซื้อทุเรียนจากหน้าสวนนั้นมีความเสี่ยงมาก เพราะต้องอาศัยความชำนาญในการดูทุเรียนว่าเป็นทุเรียนอ่อนหรือไม่ โดยส่วนหนึ่งต้องอาศัยความรู้จักกันเป็นส่วนตัวกับเจ้าของสวนด้วย

ผู้สื่อข่าว:พนิตา สืบสมุทร