นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMB) เปิดเผยว่า การที่ธนาคารปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์กลับมาอยู่ระดับเดิมที่ 0.125% หลังจากปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์เป็น 0% กำหนดให้มีผลวันที่ 1 มิ.ย.นั้น เพื่อที่จะให้ลูกค้าสามารถปรับตัวและเกิดความเข้าใจในเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ของ TMB ที่อาจจะมีการปรับลดลงเป็น 0% อีกครั้งในอนาคตธนาคารยอมรับว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารในช่วงเช้าอาจจะกระทันหันเกินไป ทำให้ลูกค้าจำนวนมากเกิดความสับสน แต่บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของลูกค้าที่เปิดไว้กับธนาคารส่วนใหญ่ใช้เพื่อเดินบัญชีในการประกอบธุรกิจ ซึ่งธนาคารไม่คิดค่าธรรมเนียมต่างๆ ซึ่งทำให้ลูกค้าไม่มีค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรม อีกทั้งธนาคารมองว่าบัญชีเงินฝากที่ใช้เพื่อประกอบธุรกิจของลูกค้าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงมากนัก
โดยหากลูกค้าของธนาคารต้องการออม ธนาคารก็มีผลิตภัณฑ์เงินฝากอื่นๆ มากมายที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ อย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ทีเอ็มบี โน ฟิกซ์ ที่มีอัตราดอกเบี้ย 1.4% และ ME by TMB ที่มีอัตราดอกเบี้ย 1.8% ตั้งแต่ 1 บาทแรก และถอนได้ตลอดเวลา โดยไม่จำกัดระยะเวลาการฝากเงิน ซึ่งธนาคารมีความต้องการให้ลูกค้าหันมาเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับลักษณะการออมของลูกค้า
สำหรับด้านสภาพคล่องของธนาคารยอมรับว่าใน 1 ปีที่ผ่านมาเพิ่มสูงขึ้นถึง 8-9% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่สูงและเพิ่มขึ้นรวดเร็วเกินไป ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่ลูกค้าของธนาคารไม่ได้มีการกระจายเงินและบริหารเงินไปในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งธนาคารก็จะพยายามบริหารจัดการในส่วนสภาพคล่องให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด พร้อมแนะนำลูกค้าให้กระจายเงินไปลงทุนในผลิตภัณฑ์อื่น ๆ