*รบ.–กกต.มั่นใจการพิจารณาพ.ร.บ.ประชามติไม่กระทบการลงประชามติ/ญี่ปุ่น ตามหาด.ช.7ขวบที่ถูกพ่อแม่ลงโทษ*

+++กรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 มาตรา 61 วรรค 2 ในเรื่องการใช้ถ้อยคำที่ยังมีความคลุมเครือ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วรรคสอง พูดถึงการกระทำ 6 อย่างที่เป็นความผิด คือ 1.ไม่ตรงข้อเท็จจริง 2.ก้าวร้าว 3.รุนแรง 4.หยาบคาย 5.ปลุกระดม 6.ข่มขู่ สิ่งที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ มีหลักวิชาการสนับสนุน เพราะติดใจถ้อยคำที่ว่า "ก้าวร้าว รุนแรง หยาบคาย" ซึ่งมีความคลุมเครือ คนไม่เข้าใจปฏิบัติไม่ถูก หากศาลฯวินิจฉัยว่า 3 คำนั้นไม่ถูกต้อง ก็เสียเฉพาะ 3 คำดังกล่าว แต่ส่วนที่เหลือยังใช้บังคับอยู่ และไม่กระทบกับพ.ร.บ.ประชามติฯ ทั้งฉบับ และไม่กระทบกับภาพรวมทั้งหมด ซึ่งไม่เหมือนกับการเลือกตั้งที่มีปัญหาทุจริตจะกระทบทั้งประเทศ ดังนั้น เรื่องนี้ไม่ได้ส่อไปถึงการล้มการออกเสียงประชามติ เพราะไม่เกี่ยวกัน 

+++กรณีที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)  แนะให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) หาแนวทางรองรับหากศาลรัฐธรรมนูญตีความให้พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ มาตรา 61 วรรค 2 ขัดรัฐธรรมนูญชั่วคราว นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. กล่าวว่า กกต.ไม่ต้องเตรียมวิธีการรองรับ เนื่องจากสิ่งที่ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเป็นเพียงวรรคเดียวใน พ.ร.บ.ประชามติ  มั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อการออกเสียงประชามติ และไม่จำเป็นต้องเลื่อนการออกเสียงประชามติ ยืนยันว่าการออกเสียงประชามติในวันที่ 7 ส.ค.นี้แน่นอน

+++กรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ( ดีเอสไอ) ได้ส่งหนังสือมายังแพทยสภาเพื่อให้พิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติของแพทย์ในการออกใบรับรองแพทย์อาการอาพาธของพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย รวมถึงคำร้องคณะแพทย์ที่ให้การดูแลพระธัมมชโยร้องขอให้มีการส่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญไปตรวจอาการอาพาธของพระธัมมชโยที่วัดพระธรรมกาย นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นควรให้ส่งทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ ปอด โลหิตวิทยา ศัลยแพทย์เส้นเลือด รังสีแพทย์ และผู้แทนจากแพทยสภา รวมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 7 คน เข้าไปตรวจอาการอาพาธตามที่มีการร้องขอ เบื้องต้นภายในวันนี้  จะต้องทำหนังสือถึงพระธัมมชโยเพื่อขอความยินยอม ก่อน จึงจะสามารถเข้าไปตรวจได้ ซึ่งหากได้รับความยินยอมก็คาดว่าน่าจะสามารถเข้าไปตรวจอาการอาพาธที่วัดได้ประมาณปลายสัปดาห์หน้า

+++นายกแพทยสภา กล่าวว่า  ที่ประชุมได้ตั้งคณะอนุกรรมการจริยธรรมชุดเฉพาะกิจ พิจารณาและตรวจสอบคุณสมบัติและอำนาจหน้าที่ในการออกใบสำคัญความเห็นแพทย์ โดยมีนายแพทย์สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เป็นประธานอนุกรรมการ โดยจะเชิญแพทย์ที่เป็นผู้ตรวจและออกใบรับรองแพทย์ให้พระธัมมชโย ตรวจสอบจากเวชระเบียน ผลการตรวจรักษาเดิม และผลการตรวจโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากแพทยสภา มาพิจารณาร่วมกัน หากพบว่าใบรับรองแพทย์ไม่ตรวจกับโรคที่เป็นอยู่ จะถือว่าเป็นการออกใบรับรองแพทย์เท็จ ซึ่งต้องลงโทษแพทย์ผู้ที่ออกใบรับรองดังกล่าว อาทิ พักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาต ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน

+++นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน  (กบง.) มีมติเห็นชอบให้คงราคาก๊าซแอลพีจี เดือนมิถุนายน 2559 ไว้ที่ 20.29 บาทต่อกิโลกรัม โดยใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงรับภาระชดเชยเพิ่มขึ้น 0.0061 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมชดเชย 0.5899 บาทต่อกิโลกรัม มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน 2559 สาเหตุที่ยังคงราคาขายปลีกแอลพีจี ในประเทศ เนื่องจากราคาต้นทุนทั้งราคาตลาดโลกและในประเทศอยู่ในภาวะทรงตัว ส่วนเงินบาทอ่อนค่าลงจาก 35 บาท เป็น 35.60 บาทต่อ ดอลลาร์สหรัฐ จึงทำให้ ราคาปรับขึ้นเพียง 0.6 สตางค์ต่อกิโลกรัม กบง. จึงตรึงราคาก๊าซแอลพีจีต่อ และใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปอุดหนุน

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดที่ 1,424.06 จุด เพิ่มขึ้น 8.30 จุด มูลค่าการซื้อขาย 46,265.49 ล้านบาท

+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปิดร่วงลง 393.18 จุด ที่ 16,562.55 จุด เพราะได้รับแรงกดดันจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อังกฤษจะออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ก่อนที่การลงประชามติในเรื่องดังกล่าวจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้

+++ฮั่งเส่ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 98.24 จุด ปิดที่ 20,859.22 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่จะมีการเปิดเผยสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด  สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการในคืนนี้ตามเวลาไทย ได้แก่  ตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนพ.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)

+++เจ้าหน้าที่ธนาคารกลาง(เฟด)ของสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานล่าสุดเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯระบุว่าเศรษฐกิจในหลายเขตมีการเติบโตในระดับปานกลางระหว่างเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม รายงานดังกล่าวจัดทำขึ้นจากการสอบถามความเห็นของภาคธุรกิจและองค์กรอื่นๆใน 12 เขตพื้นที่ของเฟด บ่งชี้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นปานกลางในหลายเขต ตั้งข้อสังเกตว่า รถโดยสารขนาดใหญ่และรถบรรทุกขายดีมากเนื่องจากราคาเชื้อเพลิงถูกลง ส่วนภาคการผลิตเพิ่มขึ้นในบางเขต แต่ก็ลดลงในอีกหลายเขต สำหรับภาคพลังงานยังคงอ่อนแอ แต่ภาคธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์มีการขยายตัวในภาพรวม รายงานระบุว่า ในหลายเขตมีปัญหาขาดแคลนแรงงาน แต่การจ้างงานก็ขยายตัวไม่มากนัก เฟดจะประชุมพิจารณานโยบายช่วงกลางเดือนนี้ ด้านนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ระบุก่อนหน้านี้ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

+++กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น ( เจเอสดีเอฟ ) ส่งทหาร 75 นายเข้าร่วมปฏิบัติการค้นหาเบาะแสของเด็กชายยามาโตะ ทาโนโอกะ วัย 7 ขวบ ที่หายไปตั้งแต่วันเสาร์ที่แล้ว บริเวณป่ารกทึบในเมืองนานาเอะ บนเกาะฮอกไกโด ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น หลังลงจากรถยนต์ตามคำสั่งของบิดามารดา ซึ่งต้องการลงโทษ บุตรชายแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ด้วยการปาหินใส่รถยนต์และผู้คนที่สัญจรผ่านไปมา เจ้าหน้าที่ยังขอความช่วยเหลือจากพรานป่าท้องถิ่น ซึ่งมีความชำนาญเส้นทางบนภูเขา ให้เข้ามาร่วมภารกิจร่วมกับตำรวจและอาสาสมัครจากหน่วยงานหลายแห่งรวมมากกว่า 200 นาย โดยทุกฝ่ายยังคงค้นหาบริเวณที่นายทาคายูกิ ทาโนโอกะ บิดาของด.ช.ยามาโตะ ให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่าเป็นจุดที่จอดรถทิ้งลูกชายไว้ เจ้าหน้าที่ยังไม่พบเบาะแสที่เป็นประโยชน์ ท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มมากขึ้น ว่าด.ช.ยามาโตะ อาจไม่สามารถรอดชีวิตจากสภาพอากาศที่เย็นจัดในเวลากลางคืนและมีฝนตกลงมา เนื่องจากเสื้อผ้าที่สวมติดตัวเป็นเพียงเสื้อยืดและกางเกงยีนส์เท่านั้น อีกทั้งบริเวณนี้ยังมีหมีอาศัยอยู่ชุกชุมด้วย

+++แผ่นดินไหวขนาด 6.5 บริเวณเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย เมื่อตอนรุ่งเช้าวันนี้ และทำให้ประชาชนตื่นตระหนกรีบอพยพขึ้นไปยังที่สูง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 คน อาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก สำนักงานสำรวจทางธรณิวิทยาของสหรัฐฯ ระบุว่า จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองปาดังราว 140 กิโลเมตร บางพื้นที่เกิดไฟฟ้าดับ หลังเกิดแผ่นดินไหวแต่ก็กลับมาใช้งานได้ตามปกติหลังจากนั้นไม่นาน