การประชุมสภานิติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.เป็นประธานในการประชุม โดยมีการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติคุมประพฤติ พ.ศ. .... ที่คณะรัฐมนตรีเสนอ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ชี้แจงหลักการและเหตุว่าเพื่อปรับปรุงกฎหหมายให้ทันสมัยต่อการเปลี่ยนแปลงในสภาวการณ์ปัจจุบัน และให้สอดคล้องกับภารกิจของกรมคุมประพฤติ ทั้งก่อนการพิจารณาคดี การพิจารณาคดี และหลังการพิพากษาคดี นอกจากนี้ ยังมีภารกิจใหม่ในการคุมประพฤติผู้กระทำผิดที่เป็นเด็กหรือเยาวชน ผู้ได้รับการพักการลงโทษและการลดวันต้องโทษจำคุก การตรวจพิสูจน์และการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดตามกฎหมายว่าด้วยการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด การจัดให้มีการทำงานบริการสังคม การดำเนินการเพื่อสร้างความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ การให้การสงเคราะห์ การให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันอาชญากรรมและแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด แต่โดยที่บทบัญญัติของกฎหมายที่มีอยู่ยังไม่ครอบคลุมภารกิจที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน และบางกรณียังมิได้กำหนดให้อำนาจพนักงานคุมประพฤติไว้ ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจของกรมคุมประพฤติมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตลอดจนมุ่งหวังที่จะคืนคนดีกลับสู่สังคม และสอดคล้องกับนโยบายในด้านการลดความเหลื่อมล้ำ
ขณะที่ สมาชิก สนช. ต่างอภิปรายสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้ เนื่องจากเป็นการฟื้นฟูผู้กระทำผิดกฎหมาย เพื่อคืนคนดีสู่ครอบครัวและสังคม และประหยัดงบประมาณแผ่นดิน แต่ขณะเดียวกันก็ได้ตั้งข้อสังเกต ในส่วนของผู้เสียหายอาจตกอยู่ในความไม่มั่นใจว่า จะถูกคู่กรณีทำร้ายหรือไม่ หรือการคุมประพฤติของผู้ที่กระทำผิดซ้ำ
ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีมติเห็นชอบรับหลักการวาระแรก ร่างพระราชบัญญัติคุมประพฤติ ตามที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ด้วยคะแนนเอกฉันท์ 161 งดออกเสียง 4 พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างฯ 17 คน