*รองโฆษกสตช.เผยผบ.ตร.สั่งสอบส่วยเปิดต่างชาติเข้ามาทำงานในไทย*

01 มิถุนายน 2559, 12:11น.


มาตรการรักษาความปลอดภัย ในช่วงเดือนถือศีลอด หรือ รอมฎอน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเข้มการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่วงเดือนรอมฎอน อย่างเต็มที่ โดยให้เพิ่มความเข้มในการตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพิ่มสายตรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ เน้นตรวจพื้นที่สุ่มเสี่ยง เพิ่มความถี่การแสดงตัว เพื่อป้องปรามกลุ่มผู้ไม่หวังดี ควบคู่การสืบสวนหาข่าวร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงอื่น ๆ ป้องกันการเคลื่อนไหวแสดงสัญลักษณ์ในช่วงเดือนรอมฎอน แต่หากเกิดเหตุรุนแรงขึ้นแล้ว ต้องเร่งดำเนินการจับกุมให้ได้โดยเร็ว รวมทั้ง ติดตามจับผู้ต้องหาตามหมายจับคดีค้างเก่า ตลอดจน ติดตามรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรม และร่วมกับขนส่งจังหวัด ตรวจสอบการซื้อขายรถมือสอง เนื่องจาก เกรงว่า จะถูกนำมาใช้ก่อเหตุความไม่สงบได้ ขณะเดียวกันยืนยันด้วยว่า เหตุวิสามัญผู้ต้องหาคนร้ายเสียชีวิต 3 ราย ที่อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ไม่เกี่ยวกับการก่อเหตุก่อนเดือนรอมฎอน โดยเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ



ส่วนกรณีแรงงานต่างด้าวมาลักลอบประกอบอาชีพที่ไม่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย โดยอ้างจ่ายส่วยสติ๊กเกอร์เป็นค่าคุ้มครอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งให้มีการตรวจสอบทางลับเพื่อให้ได้รับสิทธิ์ว่าสามารถประกอบอาชีพได้ โดยกำชับให้ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และพื้นที่เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด เพื่อไม่ให้ชื่อเสียงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียหาย โดยยืนยันว่าหากพบหลักฐานชัดเจนว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะเดินการทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด แต่ทั้งนี้ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เนื่องจากลักษณะพฤติกรรมดังกล่าวจะมีการแอบอ้างของกลุ่มมิจฉาชีพ ที่มักอ้างเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่อย่างไรก็ตามตำรวจจะต้องมีการตรวจสอบว่ามีการจ่ายส่วยจริงหรือไม่ และผู้ที่รับและผู้จ่ายจะมีความผิด ซึ่งความผิดดังกล่าวจะเข้าข่ายความผิดกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่เป็นนโยบายปราบปรามของรัฐ หากลักษณะดังกล่าวเป็นจริงก็จะมีการตรวจสอบในทางลับ แต่ยังไม่ถึงขั้นนำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้น



สำหรับความหน้าเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา มูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงรายรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ญาติผู้เสียชีวิตจาก ติดต่อรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลแล้ว 14 ราย จากทั้งหมด 17 ศพ และคาดว่า ช่วงต้นสัปดาห์หน้า พนักงานสอบสวน จะสามารถแจ้งข้อหากับบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้ หลังได้รับผลการตรวจหลักฐานจากสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน 5 ในเร็ว ๆ นี้ และในวันที่ 3 มิถุนายน พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขึ้นไปดูแลเรื่องการเยียวยาช่วยเหลือผู้เสียชีวิตต่อไป



ส่วนเหตุเด็กตกรถตู้รับส่งนักเรียนหลายครั้ง พ.ต.อ.กฤษณะ ระบุว่า จากนี้ คนขับรถต้องมีใบอนุญาตขับขี่สาธารณะ / ต้องมีการติดป้ายชัดเจนว่าเป็นรถรับส่งนักเรียน / มีการตรวจสภาพรถ ทุก 6 เดือน / มีพี่เลี้ยงประจำรถ และมีการทำประกันภัย ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นที่จังหวัดเชียงรายและตาก ได้มีการเรียกผู้ขับขี่ มาสอบปากคำและแจ้งข้อหา พร้อมระงับการใช้รถ และพักใช้ใบอนุญาตขับขี่แล้ว

ข่าวทั้งหมด

X