*นายกรัฐมนตรี เร่งปราบทุจริต ย้ำไม่รังแกนักการเมือง อยู่ต่อจนกว่าประเทศจะสงบ*

01 มิถุนายน 2559, 11:04น.


การประชุม ในหัวข้อ SET in Business G 77 ว่าด้วยบทบาทภาคเอกชนในการส่งเสริมเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ในหัวข้อ การประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการบริหารจัดการดำเนินธุรกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)กล่าวในตอนหนึ่งว่า การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศแลกเปลี่ยนประสบการณ์การแก้ปัญหาแต่ละประเทศ โดยมีการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติเป็นเป้าหมายที่ชัดเจน รวมถึงแสดงความยินดีที่สถาบันการจัดการนานาชาติ (IMD) ประกาศผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยปี 59 ดีขึ้น 2 อันดับ จากอันดับที่ 30 มาเป็นอันดับที่ 28 ซึ่งเกิดจากการดำเนินการของรัฐบาล แต่มีบางกลุ่มที่ตั้งข้อสังเกตว่า ไม่น่าเชื่อถือซึ่งนายกรัฐมนตรีบอกว่า  ถ้าไม่เชื่อIMDก็คงต้องไปเชื่อนายพิชัย นริพทะพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ชอบวิจารณ์เศรษฐกิจไทย ไม่รู้เก่งมาจากไหน



นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า  แม้จะเป็นอดีตข้าราชการทหาร แต่ก็มั่นใจว่าจะสามารถบริหารขับเคลื่อนประเทศให้เติบโตได้ ซึ่งทหารไม่ได้มีไว้เพื่อสู้รบกับใคร และไม่ได้มีไว้เพื่อจับนักการเมือง แต่เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล สิ่งสำคัญ คือ ประชาชนต้องให้ความร่วมมือกับภาครัฐ เพื่อเดินหน้าประเทศ พร้อมยอมรับว่ากลไกการเมืองของประเทศไทยยังมีการบิดเบือนข้อเท็จจริง จึงทำให้เกิดความสับสนทั้งในและต่างประเทศ โดยย้ำว่า ประเทศไทยกำลังเร่งแก้ปัญหาปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น  นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ไม่ใช่รังแกนักการเมืองแต่อย่างใด ซึ่งการบังคับใช้กฎหมายตามมาตรา 44 และกฎหมายพิเศษ ในการเรียกนักการเมืองมาปรับทัศนะนั้น ก็เพื่อให้เกิดความสงบสุขและนำไปสู่การเลือกตั้ง เพราะประเทศอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ



นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า จะอยู่บริหารประเทศจนกว่าจะเกิดความสงบเรียบร้อย ซึ่งหากไม่มีความสงบก็จะไม่ไปไหน และจะอยู่ไปจนถึงปีหน้าด้วย พร้อมกันนี้ ยังย้ำว่า ไม่ได้ต้องการคะแนนนิยม แต่จะเดินหน้าเดินตามโรดแมป และขออย่าถามอีกว่าจะอยู่ไปจนถึงเมื่อใด



แฟ้มภาพ

ข่าวทั้งหมด

X