*รองนายกฯไม่ห้ามไปดูไบ/บิ๊กจิ๋วอาสาหย่าศึกธัมมชโย/ส่งศพเด็กม.5ชันสูตร แม่ยืนยันลูกไม่กินยาลดความอ้วน*

01 มิถุนายน 2559, 07:25น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.



+++ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 25/2559 เรื่อง ยกเลิกการห้ามบุคคลเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ตามที่รัฐบาลมีนโยบายในการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ส่งเสริมความรักและความสามัคคี ของประชาชนในชาติ โดยการยกเลิกประกาศไม่กระทบกระเทือนถึงการปฏิบัติตามคำสั่งศาล เกี่ยวกับการเดินทางออกนอกราชอาณาจักร และคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติเกี่ยวกับการให้ บุคคลมารายงานตัว รวมทั้งการกำหนดวันเวลาและสถานที่รายงานตัว  คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป



+++คสช.ปรับแนวทางในการเรียกบุคคลมาปรับทัศนคติ จากเดิมที่ใช้ค่ายทหาร จะใช้ศาลากลางจังหวัด หรือสถานีตำรวจ เป็นสถานที่พูดคุยแทน เพื่อผ่อนคลายบรรยากาศและสร้างความรู้สึกที่ดีของผู้ที่ถูกเรียกตัวมาพูดคุย ในวันเดียวกัน  เจ้าหน้าที่ทหารได้ติดต่อขอเข้าพบนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ที่สถานีโทรทัศน์ทีวี24 ห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว โดยคาดว่าจะเป็นการพูดคุย เพื่อขอความร่วมมือในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง  ขณะที่นายอนุสรณ์เปิดเผยภายหลังพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ทหารกว่า 1 ชั่วโมง ว่า เจ้าหน้าที่ทหารขอความร่วมมือในเรื่องการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง การวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งขอให้ระมัดระวังการแสดงความเห็นตอบโต้ ไปจนถึงการตั้งข้อสังเกตต่างๆ ที่อาจสร้างบรรยากาศที่ไม่ดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ยกเรื่องใดขึ้นมาเป็นพิเศษ เพียงแต่ระบุว่าช่วงนี้ยังไม่เหมาะสมที่ฝ่ายการเมือง จะแสดงความคิดเห็นทางการเมือง และอยากให้เข้าใจว่า รัฐบาลกำลังทำงานอย่างเต็มที่ รวมทั้งขอโอกาสให้รัฐบาลได้ทำงานด้วย



+++ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.กล่าวถึงกรณีที่ คสช.ปรับแผนโดยไม่เรียกนักการเมืองเข้าปรับทัศนคติว่า ต้องดูว่าที่ผ่านมานั้นเรียกไปเพื่ออะไร ซึ่งเป็นการเรียกไปเพื่อทำความเข้าใจพูดคุย หาเหตุผลว่า ที่แสดงออกนั้น ต้องการอะไร หากคุยวันเดียวไม่ได้ก็ต้องยืดเวลาออกไปเป็น 2-3 วัน แต่ไม่ได้มีการคุมขัง ซึ่งอาจเป็นการหาที่พัก แล้วค่อยพูดคุยกันต่อเท่านั้น ส่วนผู้ที่มีคดีความติดตัวอยู่ก็ส่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ เมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมผู้ที่มีความผิดทางอาญาก็จะถูกดำเนินคดี ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับการประกันตัว แล้วอย่ามาบอกว่า ขอให้ช่วยปลดปล่อยคดีทางการเมือง เพราะที่ทำอยู่นั้นไม่ใช่การเมือง เป็นเรื่องผิดกฎหมายคดีอาญา



+++ส่วนที่หมอดูเตือนไม่ให้พูดมาก นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้ยังอารมณ์ดีอยู่ เมื่อหมอดูเตือนมาก็รับฟังไว้ แต่ถือว่าตัวเองทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจ แม้จะโมโหอารมณ์รุนแรงบ้าง ก็ต้องให้อภัย เพราะทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เกี่ยวข้องกับการทำงาน มีความกดดัน เพราะงานที่ทำยังไม่เสร็จ และมีปัญหาอยู่มาก ต้องทำให้ได้เพราะเป็นความคาดหวังของประชาชน แม้มีบางส่วนที่ไม่คาดหวังก็ตาม ตนทำเพื่อทุกคน ทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ ขณะที่ผลโพลล์ก็มีขึ้นลงบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ขึ้นอยู่กับว่าโพลล์ไปสอบถาม ใคร



+++ด้านการสวมการเสื้อรับ-ไม่รับประชามติ โดย กกต.บอกว่าไม่ผิดนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ใช่คนเขียนกฎหมาย กฎหมายต้องดูที่ กกต.เขียนว่าอย่างไร เมื่อ กกต.พูดว่าไม่ผิด กกต.ต้องรับผิดชอบ หากมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น กกต.จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ การใส่เสื้อหรือไม่นั้น หากมีการทะเลาะเบาะแว้งเรื่องก็จะมาถึง คสช. ที่จะเข้าไปดูแล เรื่องนี้ไม่ทราบ แต่เมื่อ กกต.ประกาศออกมาเช่นนี้ก็ต้องรับผิดชอบด้วย 



พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ปฏิเสธกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีรายชื่อนายทหาร อักษรย่อ ก. และ ธ. จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี โดยบอกว่า ยังไม่มีการปรับ ครม.ขณะนี้ ถ้าเชื่อสื่อออนไลน์ก็ไปถามสื่อออนไลน์ อย่ามาถามตนกระแสข่าวของกลุ่มเสื้อแดงที่เตรียมจัดทริปไปเที่ยวที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ว่า ก็แล้วแต่เขา ถ้าเห็นว่าดีก็ทำ ถ้าประชาชนเห็นว่าสิ่งที่เขาทำนั้นถูกต้องก็เอาเลย ตนไม่ว่าอะไร เพราะนายกฯปลดล็อกในการเดินทางไปต่างประเทศให้แล้ว



++++วันนี้ ต้องติดตามคดีพระธัมมชโย ยังประวิงเวลาไม่เข้ารับข้อกล่าวหา คดีรับของโจร ฟอกเงิน  หลังรับเช็ค จากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โดยมีมีอาการอาพาธหนัก พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีอสไอ ) เปิดเผยว่า จากการเข้านมัสการพระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เมื่อค่ำ วันที่ 30 พ.ค. ขอให้พระเทพรัตนสุธีในฐานะเจ้าคณะปกครองพระธัมมชโย ช่วยดำเนินการให้พระธัมมชโยเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายโดยไม่ต้องใช้กำลังจับกุม ตามหมายจับ ซึ่ง พระเทพรัตนสุธีเข้าใจเจ้าหน้าที่รัฐ และรับจะเป็นผู้ประสานดำเนินการในฐานะ เจ้าคณะปกครองทางสงฆ์ให้ โดยขอเวลาดำเนินการ



+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของศิษยานุศิษย์ของพระธัมมชโย ที่ขยายวงกว้างในวัดต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศว่า ต้องร่วมกันรับผิดชอบ ตอนนี้ขยายความกันไปเรื่อย ความจริงเป็นเรื่องคดีความของคนไม่กี่คนแล้วขยายไปยังศิษยานุศิษย์ ไปทั้งในและต่างประเทศ จัดทีวีถ่ายทอดสดไปทั่วโลกเดินไปไหนมาไหนก็ถ่ายทอดทั้งหมดก็สมควรแล้วจะให้ทำอย่างไร ถ้ามีการจับตั้งแต่แรกควบคุมตัว หรือมอบตัวก็จบไปแล้วไม่ใช่หรือ คดีก็ยังไม่สิ้นสุดว่าผิดหรือถูกก็ต้องไปพิสูจน์ทราบกันก็จบแค่นั้น อย่ามาบอกว่าไปรังแกพระ มันไม่ใช่ มีการโกงมาตั้งแต่เรื่องของ สหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น มีการโอนเงินเข้ามาก็ไปพิสูจน์ทราบกันว่ามันไม่ใช่ แต่ปล่อยมาจนกลายเป็นว่าเราไปรังแกพระมันไม่ใช่



+++โดยในช่วงเวลา 09.00 น.วันนี้  พล.อ.ชวลิต  ยงใจยุทธ จะเดินทางไปกราบ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (สมเด็จช่วง) ที่ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ คาดว่าจะมีการหารือประเด็นของพระธัมมชโยด้วย ส่วนเวลา13.30น.นายไพบูลย์ นิติตะวันและคุณหมอ มโน เลาหวนิช จะไปยื่นหนังสือต่อ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เพื่อกล่าวโทษพระธัมมชโย กระทำผิดคุรุกาบัติ  ต้องให้สละสมณเพศ ที่วัดพิชยญาติการาม(วัดพิชัยญาติ)



+++หลังนักเรียน.ชั้น ม.5 สังกัดโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.นนทุบรี เป็นลมระหว่างซื้อข้าวเหนียว-หมูปิ้งหน้าโรงเรียน ภายหลังครูเร่งนำตัวส่งรพ. ก่อนหมดสติหัวใจหยุดเต้น เสียชีวิต ด้านมารดาของ น.ส.บี เปิดเผยว่า ลูกสาวไม่ได้กินยาลดความอ้วน แต่เคยไปหาแพทย์รักษาโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และน่าจะเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตมากกว่า แม้บุตรสาวจะมีรูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ แต่ก็ไม่อ้วนมากทั้งยังเป็นนักกีฬาฟุตซอลของโรงเรียนด้วย เชื่อว่าไม่ได้ไปซื้อยาลดความอ้วนมากินเองอย่างแน่นอน เบื้องต้นได้ส่งศพไปให้ทาง สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำการผ่าพิสูจน์เพื่อคลายข้อสงสัยดังกล่าวแล้ว



+++ขาดสติตำรวจจับกุม นายศักดิ์ แสงเฮือง อายุ 25 ปีมีบัตรประจำตัวบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน ซึ่ง ได้ก่อเหตุบีบคอนางคำหอม อายุ 21 ปี ภรรยาเป็นชาวพม่าเสียชีวิตอยู่บนที่นอน และมีเด็กทารกกำลังดูดนมจากศพ นายศักดิ์ เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพเป็นช่างทำงานอะลูมีเนียม และเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาได้มีปากเสียงทะเลาะกับภรรยา เรื่องไม่ดูแลลูกและปล่อยให้ร้องไห้จนไม่ได้พักผ่อน ด้วยความโมโหจึงใช้มือบีบคอภรรยาจนแน่นิ่งไป หลังจากนั้นได้นอนหลับพักผ่อนต่อ จนกระทั่งช่วงเช้าเมื่อตื่นขึ้นมาเห็นลูกชายกำลังดูดนมภรรยา ในสภาพที่นอนนิ่งผิดปกติไม่เคลื่อนไหว และไม่ตื่นขึ้นมาดูลูก จึงตรวจสอบก็พบว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว และสำนึกผิดในการกระทำและไม่คิดหลบหนี จึงแจ้งตำรวจมาให้จับกุมตัวเพื่อขอชดใช้กรรมที่กระทำขึ้น เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวสามีขี้โมโหไว้ดำเนินคดี และจะได้ติดต่อทางญาติๆ ผู้ตาย เพื่อให้มารับตัวเด็กไปดูแล แต่หากไม่มีญาติก็จะส่งตัวเด็กไปยังสถานสงเคราะห์ต่อไป

ข่าวทั้งหมด

X